โบรกแนะปรับพอร์ต

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 11 พฤษภาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    โบรกเกอร์ ประเมินการเมืองคลุมเครือต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้า แนะนำให้นักลงทุนปรับลดพอร์ตลงทุน โดยลงหุ้นไม่เกิน 60-70% ของพอร์ตรวม

    บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นวานนี้ (9 พ.ค.) ยังคงผันผวนต่อเนื่องจากวันก่อน และมีมูลค่าการซื้อขายไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ ชะลอการลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์การเมือง แม้วานนี้จะมีการชุมนุมของกลุ่มการเมืองต่างๆ แต่ก็มีผลกระทบต่อการลงทุนไม่มากนัก สะท้อนจากดัชนีหุ้นที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยปิดตลาดที่ 1377.37 จุด ลดลง 165 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 26,099.95 ล้านบาท

    ด้านต่างชาติหันมาขายสุทธิวานนี้ 1,885.99 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 124.31 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,445.09 ล้านบาท และสถาบันซื้อสุทธิ 565.21 ล้านบาท

    นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ยอมรับว่า ตลาดหุ้นวานนี้ค่อนข้างเงียบ นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์การเมือง จึงทำให้วอลุ่มไม่มาก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขาย เพื่อรอดูสถานการณ์

    ขณะนี้สถานการณ์การเมืองยังไม่มีความชัดเจน เช่น ประเด็นการเลือกตั้งใหม่ว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 20 ก.ค.หรือไม่ และจะมีการจัดเลือกตั้งอย่างไร โดยต้องรอดูการหารือระหว่างรัฐบาลกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 14 พ.ค.นี้

    สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์หน้า เธอมองว่า ยังเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด โดยปัจจัยการเมืองที่คลุมเครือทำให้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น และดัชนีจะมี Upside ไม่มากอยู่ที่ 1400 และ 1420 ขณะที่ Downside อยู่ที่ 1350

    ส่วนนายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์ลงทุน บล.ธนชาต คาดว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ยังมีแนวโน้มผันผวน และมีโอกาสปรับลดลงไปแตะ 1,360 จุดได้ หากการเมืองยังไม่คลี่คลาย จึงแนะนำให้นักลงทุนปรับลดพอร์ตการลงทุน โดยลงทุนในตลาดหุ้นไม่เกิน 60-70% ของพอร์ตการลงทุนรวม เพราะช่วงที่ผ่านมา ถือว่าตลาดหุ้นไทยได้ปรับขึ้นไปมาก โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นปรับขึ้นกว่า 200 จุด หรือปรับขึ้น 16% ราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พีอี) อยู่ที่ระดับ 14 เท่า ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โตเพียง 8 % เท่านั้น

    "การเมืองในช่วงนี้ แม้จะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมา แต่ก็สถานการณ์ก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิม สุดท้ายก็ต้องรอการเลือกตั้งเหมือนเดิม และหากในช่วง 1-2 วันนี้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ตลาดก็คงตอบรับในเชิงลบ แต่หากรุนแรงแล้วสามารถทำให้จบลงได้ ตลาดคงปรับลงในช่วงสั้น และจะรีบาวด์ปรับขึ้นต่อได้"

    ด้านนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยืนยันว่า มุมมองของต่างชาติขณะนี้ ไม่ได้กังวลการลงทุน ซึ่งการเมืองที่เกิดขึ้นมีมาต่อเนื่อง แต่ยังมีการลงทุนอยู่เรื่อยๆ จึงเชื่อว่าต่างชาติ ได้ปรับตัวให้ชินกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยการตัดสินใจเข้ามาลงทุน เพราะสนใจในผลตอบแทนมากกว่า

    ทั้งนี้ สถานการณ์ในประเทศ ยังต้องหาทางออกด้านการลงทุน เพราะต้องมีงบประมาณในการลงทุนจากภาครัฐ แต่ต้องมีการแต่งตั้งรัฐบาลก่อน และในระหว่างนี้ได้มีการจัดตั้งบอร์ดบีโอไอขึ้นมาแล้ว จึงทำให้ภาคการลงทุนของไทย ยังช่วยประคองเศรษฐกิจต่อไปได้ โดยปีนี้เศรษฐกิจไทย จะมีภาคการส่งออกเป็นตัวหนุน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และยุโรป รวมถึงการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะทำให้ภาคการส่งออกของไทยขยายตัวขึ้นได้ บวกกับเศรษฐกิจรอบบ้านที่ดีขึ้น อาทิ จีน เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

    "ตราบใดที่ตลาดของไทยยังดีอยู่ และผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าพอใจ ผมเชื่อว่านักลงทุนจะกลับเข้ามาลงทุน เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่สนใจผลตอบแทนมากกว่า" นายสถิตย์ กล่าว

    นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มองว่า ทิศทางการเมืองหลังจากนี้ จะมีทางออก โดยจับตาดูอีก 1-2 วัน จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ช่วงที่ผ่านมาการเมืองเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และสามารถจบได้

    ส่วนมุมมองของต่างชาติที่มีต่อตลาดหุ้นไทยขณะนี้ ยังมีการลงทุนต่อเนื่อง เห็นได้จากต่างชาติยังเข้าซื้อ และตลาดหลักทรัพย์ ได้ชี้แจงกับต่างชาติ และยังมีการจัดโรดโชว์ทำความเข้าใจต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการลงทุน

    Tags : โบรกเกอร์ • พอร์ตลงทุน
     

แบ่งปันหน้านี้