เอกชนมอง'อสังหาฯ'ปีหน้าฟื้น

"สัมมากร" คาดอุตสาหกรรมอสังหาฯ ปีหน้าเติบโตได้ถึง 10% หากเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ตามเป้า แต่ยังกังวลหนี้ครัวเรือนสูง

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO กล่าวว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีหน้าจะเติบโตได้ถึง 10% หากเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังประสบกับปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจชะลอตัว โดยมีปัจจัยหลักๆ คือหนี้สินภาคครัวเรือนในปีนี้ที่สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 16% ส่วนในปีนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะลดลง 2-3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากปัญหาการเมืองและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กดดันให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น โดยในส่วนของบริษัทเองมีลูกค้าที่กู้ไม่ผ่านเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 25% จากระดับปกติที่ 15%

“หากในปีหน้าจีดีพีของไทยสามารถเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ประมาณ 4% จะช่วยให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตได้มาก เนื่องจากธุรกิจนี้จะมีแนวโน้มเติบโตหรือหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่อาจจะทำให้การเติบโตช้ากว่าที่คาดคือหนี้ครัวเรือนซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากใน 2 ปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นถึง 12% ในปี 2556 และ 16% ในปี 2557 ส่วนสิ้นปีนี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังฟื้นตัวได้ต่ำกว่าที่คาด เนื่องจากเงินอัดฉีดของรัฐบาลยังไม่สามารถกระจายไปได้อย่างทั่วถึง” นายกิตติพล กล่าว

ขณะที่ระยะยาวบริษัทตั้งเป้ารายได้เกิน 4,000 ล้านบาท ภายในปี 2562 โดยได้วางกลยุทธ์เปิดโครงการใหม่ปีละ 3 โครงการ และตั้งงบลงทุนเพื่อซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่เฉลี่ยปีละ 1,000 ล้านบาท พร้อมทั้งจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายทั้งแนวราบ คอนโดมิเนียม และคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อกระจายความเสี่ยงหากเศรษฐกิจเกิดภาวะชะลอตัว

“ส่วนรายได้ปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 1,800 ล้านบาท มาจากการรับรู้งานในมือกว่า 850 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทจะเปิดโครงการใหม่แนวราบอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,300 ล้านบาท ซึ่งอาจจะทำให้รับรู้รายได้เข้ามาบางส่วน ส่วนอัตรากำไรสุทธิในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10-12% จากปัจจุบันที่ 8% เนื่องจากจะรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งอัตรากำไรสุทธิของโครงการอยู่ที่ 12-14% ขณะที่แนวราบอยู่ระดับ 8%”

ในขณะที่ปีนี้คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 1,100 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อน แต่กำไรจะต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 103 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีรายการพิเศษจากการขายที่ดิน 300 ไร่เหมือนปีก่อน

นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า ปีหน้าภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์คงดีขึ้นกว่าปีนี้พอสมควร แต่จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะโครงการในแนวราบ เนื่องจากการขยายตัวของรถไฟฟ้าที่กระจายออกไปยังรอบๆ ตัวเมืองมากยิ่งขึ้น ประกอบกับราคาโครงการแนวสูงที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับโครงการแนวราบ ทำให้ผู้บริโภคหันไปสนใจโครงการแนวราบมากขึ้น

บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีหน้าเติบโต 5-10%จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ราว 12,210 ล้านบาท พร้อมทั้งตั้งเป้ายอดขายเติบโต 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ 12,700 ล้านบาท โดยบริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการใหม่ในปี 2558 อีก 23 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 13 โครงการ ที่เหลือเป็นคอนโดมิเนียม

ขณะที่บริษัทตั้งงบลงทุนปี 2558 ที่ 1,500-2,000 ล้านบาท สำหรับใช้ซื้อที่ดิน โดยบริษัทพยายามควบคุมปริมาณการซื้อที่ดิน เนื่องจากปัจจุบันมีที่ดินเปล่าไว้รองรับสำหรับพัฒนาโครงการกว่า 2,000 ไร่ ด้านงานรอรับรู้รายได้ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 5,615 ล้านบาท โดยจะรับรู้ในช่วงไตรมาส 4 จำนวน 1,809 ล้านบาท ที่เหลือจะรับรู้ในปีหน้าทั้งหมด

นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 คาดเติบโตมากกว่าปีนี้แต่จะไม่หวือหวามาก เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ดีมากนัก เพราะทั้งตัวเลขการส่งออก และการบริโภคภายในประเทศยังแผ่ว ซึ่งตลาดอสังหาฯจะเติบโต มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จีดีพี ปีคาดปีหน้าจีดีพีขยายตัว 4%เท่านั้น

“ตลาดอสังหาฯในปีนี้ในแง่การเปิดตัวโครงการใหม่ติดลบกว่า 10% ณ ตอนนี้ การบริโภคภายในประเทศยังแย่ โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดยังไม่ค่อยฟื้นตัว”

สำหรับปีนี้ บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ตามแผนวางไว้ 21 โครงการ มูลค่ารวม 4.13 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมมูลค่ารวมอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากได้ปรับเปลี่ยนมาเปิดโครงการบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ แทน โครงการในต่างจังหวัด ทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

ส่วนยอดขายในช่วง 9 เดือนแรก บริษัททำได้แล้วกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของลูกค้าเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นมา ทำให้ยอดขายของบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา คาดว่ายอดขายของบริษัทในปีนี้ จะเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.2 หมื่นล้านบาท แต่ไม่เกิน 10% ส่วนมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ในปัจจุบันอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท โดยมีการรับรู้ไปแล้วใน 9 เดือนแรกที่ 1.8 หมื่นล้านบาท และมีบางส่วนจะทยอยโอนไปถึงปี 2560

นายอดิศร กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทตั้งงบซื้อที่ดินมากกว่าปีนี้ที่ตั้งไว้ 7,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น และโครงการใหม่ คาดว่าจะเปิดใกล้เคียงกับปีนี้ ที่ 21 โครงการ มูลค่า 4.13 หมื่นล้านบาท อีกทั้งในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. บริษัทคาดว่าจะมีการออกหุ้นกู้ 2 ครั้ง ในช่วงเดือนมี.ค. และเม.ย. มูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้ไปใช้พัฒนาโครงการใหม่ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน นอกจากนี้ ในปีหน้า เตรียมจะนำโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยส์ เทอมินอล 21 จัดตั้งกองรีท มูลค่าโรงแรมดังกล่าวกว่า 1 หมื่นล้านบาท

Tags : กิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา • สัมมากร • ธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร • อสังหาฯ