หลายๆ คนคงรู้จักแอพพลิเคชั่น SCB Easy และแม่มณีซึ่งเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ไปแล้ว แต่คงมีไม่กี่คนที่ทราบว่า แอพพลิเคชั่นเหล่านี้พัฒนาโดยทีม SCB Digital ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ Blognone Workplace จะพาไปรู้จักให้มากขึ้น รู้จัก SCB Digital SCB Digital คือหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแอพดังกล่าวจนกลายเป็นแอพที่มีฐานผู้ใช้งานหลักสิบล้านราย นอกจากนี้ยังได้พัฒนา [SCB Connect] (https://www.blognone.com/node/92851) บริการแจ้งเตือนรายการจาก SCB ผ่าน LINE ให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับธนาคารได้ตลอดเวลาทันที 24 ชั่วโมง แจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการรูดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตั้งแต่บาทแรก และการแจ้งเตือนเมื่อใกล้ครบกำหนดชำระเงิน การเช็ควงเงินคงเหลือก็ทำได้ ถือเป็นบริการที่ใกล้ตัวคนไทยที่ใช้งาน LINE กับทั่วประเทศ คุณสกุล มณฑา (กิ๊ก) AVP, Software Engineer Team Lead, SCB Digital ดูแล SCB Digital Academy ซึ่งอยู่ภายใต้ หน่วยงาน Centre of Excellence เป็นแหล่งบ่มเพาะพนักงานในยุคดิจิทัลให้มีความรู้ และทักษะด้าน Technology ทำหน้าที่ Coaching บุคลากรในองค์กร จัดอบรมบุคลากรทั้งภายใน และ ภายนอก รวมถึงการจัด Event ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Technology ซึ่งล่าสุดได้จัดงาน Bangkok Soft Skill for Tech สำหรับคนภายใน และภายนอกองค์กรที่ SCB Academy ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี คุณกิ๊กเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ ทาง SCB Digital ได้รับพนักงานที่เพิ่งจบใหม่มาประมาณ 150 คน ไม่รวมผู้ที่มีประสบการณ์ ทั้ง Software Engineer ใน ฝั่ง Front-End, Back-End รวมถึง Mobile Developer และ QA แต่เท่านี้ยังไม่พอ เพราะบริษัทยังต้องการคนมาเสริมทัพอีก นอกจากนี้ยังเปิดรับตำแหน่ง UX, UI, Data Science ด้วย สาเหตุที่ต้องขยายทีมเพิ่ม เพราะ Digital Disruption นั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ บริษัทจึงต้องการน้อง ๆ รุ่นใหม่ไฟแรง เข้ามาร่วมงานกัน ต้องการคนแบบไหน คุณกิ๊กบอกว่า อยากได้คนมีทัศนคติที่ดี บนพื้นฐานของการมี Growth mindset สามารถทำงานร่วมกับทีมได้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้คนที่มีความพร้อมทั้ง Soft skill และ Hard skill ส่วนความรู้พื้นฐานที่ต้องการคือ คนที่มีทักษะทางคณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ที่ดี สามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุผล เพราะจะทำให้สามารถเขียนโปรแกรมได้ดี นอกจากนี้ยังต้องการคนที่เปิดใจรับฟัง ยอมรับความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับปรุง และ พัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น เพราะ Feedback is a gift อีกทักษะคือ ความมี Empathy ภาษาโปรแกรมที่ต้องการเป็นพิเศษ สำหรับ Software Engineer Back-End อยากได้คนที่คล่องในการเขียนโปรแกรมแบบ Object-oriented programming(OOP) ภาษาที่ใช้หลักๆ ตอนนี้คือ Java ส่วน Front-End อยากได้คนที่ค่อนข้างคล่องใน JavaScript, Node.js เนื่องจากเรามีใช้ Node.js, Angular และ React ถ้าเป็นไปได้ Full Stack จะดีมากครับ สำหรับ Mobile Developer ควรมีความสามารถในภาษา Kotlin และถ้าฝั่ง iOS ก็ควรมีทักษะในภาษา Swift คุณกิ๊กเสริมว่า บางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้สอนการเขียนโปรแกรมสำหรับมือถือ ส่วนใหญ่เด็ก ๆ ก็จะมาศึกษากันเอง เราก็จะพิจารณาจาก OOP, logical และ mindsetเป็นหลัก ในส่วนของ QA ก็ควรมีแนวความคิดเกี่ยวกับการทดสอบระบบที่ดี และมี Awareness เราต้องการ QA ที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ มี Logic ที่ดี เนื่องจาก QA ที่นี่จะต้องทำ Automation Test ความท้าทายของการตามหาคนสายงานนี้ คุณกิ๊กยอมรับว่า ยังคงหาคนยาก ส่วนหนึ่งเพราะ ผลิตภัณฑ์ของเราขยายตัวเร็ว ถึงแม้ว่าเราจะต้องการคนเยอะก็จริง แต่ Quantity ก็ต้องมาพร้อมกับ Quality ไปด้วย ซึ่งปีหนึ่งๆ มีเด็กจบออกมาในสายงานนี้ไม่ได้เยอะขนาดนั้น และยังมีหลายองค์กรที่ต้องการคนสายงานนี้ ในเมื่อหาคนยาก แล้ว SCB มีอะไรมาดึงดูดคนเหล่านี้ SCB เป็นองค์กรที่มีมายาวนาน และมีความมั่นคงสูง คนภายนอกน่าจะมองออกว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ตอนนี้ กำลังตอบรับการเปลี่ยนแปลงของโลก และรับมือ Digital Disruption เด็ก ๆ ก็น่าจะพอรู้ว่าแม้เราจะเป็นธนาคารเก่าแก่ แต่เราก็พัฒนาอยู่ตลอดและมีความทันสมัยมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ SCB ยังมีจุดแข็งเรื่องสวัสดิการที่ดีมาก ยิ่งสวัสดิการระยะยาวยิ่งดี เช่น Facility ครบครัน มีห้องพยาบาล ที่เหมือนยกโรงพยาบาลย่อมๆ เข้ามาในบริษัทเลย และมีหมดนวดคนตาบอดให้บริการฟรี ฟิตเนสที่ทันสมัยและกว้างขวาง เงินฝาก สหกรณ์ออมทัพย์ดอกเบี้ยสูงและไม่เสียภาษี และทีเด็ดคือสิทธิพิเศษกู้ดอกเบี้ยต่ำมากสำหรับพนักงาน ซึ่งถ้าใครที่อยากเข้ามาร่วม เก่งพอ และเจ๋งพอ ก็เติบโตไปด้วยกัน ส่วนการประกันสุขภาพก็มีเป็นปกติอยู่แล้ว และถือว่าสูงกว่าที่อื่นด้วย ด้วยภาพลักษณ์ธนาคารเก่าแก่ วัฒนธรรมการทำงานเป็นแบบไหน คุณกิ๊กบอกว่า สิ่งหนึ่งที่บริษัทต้องการสื่อสารให้คนรุ่นใหม่รู้คือ แม้เราจะเป็นธนาคารเก่าแก่ แต่เรามีวัฒนธรรมการทำงานที่ทันสมัย เราเริ่มปรับใช้ระบบ Agile ทั้งองค์กร การสั่งงานแบบ Top down ก็ยังคงมีอยู่ ทุกองค์กรก็จะมีการบริหารงานในลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่เรามีการรับ Feedback ตลอดเวลา จึงไม่ต้องกลัวว่า เด็กรุ่นใหม่จะไม่มีทบาท หรือไม่มีสิทธิออกเสียงใด ๆ ในส่วนงานเทคโนโลยี เราก็ไม่ได้จำกัดว่าจะใช้แต่ Stack เก่าๆ เราใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และ ใช้ภาษาโปรแกรมอื่น ๆ ที่หลากหลาย ในส่วนของการเอนเตอร์เทน เราก็มีบรรยากาศปาร์ตี้ด้วย ไม่ใช่ว่าเคร่งเครียดทำงานกันอย่างเดียว มีกีฬาสี มี First hand day ให้ทีมงานไปที่สาขา เชิญชวนคนมาใช้ SCB Easy, พาน้อง ๆ ไปทำ Hackathon พาไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เป็นต้น คือยังมีบรรยากาศความสนุกสนานอยู่ เสียงสะท้อนจากพนักงานรุ่นใหม่ ณชนินทร อัศววิชัยโรจน์ (โจ) AVP, Software Engineer Specialist คุณโจดูแลในส่วนของการพัฒนาและออกแบบสถาปัตยกรรมของซอฟต์แวร์ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน โดยมุ่งเน้นให้ระบบมีเสถียรภาพมากที่สุด ซึ่งทุกแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ก็มีความต้องการใช้งานเพิ่มอยู่ตลอดเวลา และยิ่งไปกว่านั้นคือการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆที่ลูกค้าต้องการ เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของธนาคารต่อไป ยกตัวอย่างเช่นบริการ SCB Connect เป็นบริการแจ้งเตือนและให้บริการข้อมูลผ่าน LINE มีคนใช้งานที่เติมโตอย่างรวดเร็วที่สุดบริการหนึ่ง การทำให้ระบบสามารถรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น มีความท้าทายเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นช่องทางใหม่ที่นับเป็นนวัตกรรมในการติดต่อกับลูกค้าช่องทางหนึ่งในปัจจุบัน มีความท้าทายสูงและกดดันในบางครั้ง แต่เมื่อปลดล็อกอะไรซักอย่างได้เราจะมีความภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำอย่างมาก คุณโจทำงานที่นี่มา 5 ปีแล้ว ตอนที่เข้ามาทำงานที่นี่ก็เข้าร่วมทีม Digital Innovation ซึ่งเริ่มทำ Agile แล้ว จึงมีความรู้สึกที่ดี และเจออะไรใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา คุณโจบอกว่า รู้สึกภูมิใจกับงานที่ทำ เพราะการทำผลิตภัณฑ์ใน SCB มันได้ Impact กลับมาสูงกว่า มีคนใช้งานทั่วประเทศ ได้ยินคนพูดถึงและเห็นคนใช้งานผลิตภัณฑ์เราก็รู้สึกดีใจ ภูมิใจ คุณโจมีส่วนในการรับคนเข้าทีมด้วย ส่วนตัวเคยคิดว่าชอบทำงานกับคนเก่ง แต่หลังๆ คิดว่า ความเก่งไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่อยู่ที่คนๆ นั้นมีความคิดอยากจะเรียนรู้ตลอดเวลา น้องๆ ที่เข้ามาก็ไม่ได้มีประสบการณ์มาก แต่ก็อยากจะเรียนรู้ไปด้วยกัน เมื่อเจอปัญหาก็พร้อมจะแก้ไขไปด้วยกัน สุพิชชา ศรีศิริกุลวัฒนะ (เฟิร์น) Software Engineer เป็นเด็กจบใหม่สดๆ ร้อนๆ มาเริ่มงานที่ SCB Digital ไม่กี่เดือน ตอนนี้รับหน้าที่ทำ Front-End และดูแลแอพพลิเคชั่นแม่มณีที่เป็นแอพฝั่งร้านค้า ความท้าทายที่เจอคือ สมัครงานตำแหน่ง Back-End เข้ามา แต่ที่นี่ต้องการคนที่สามารถทำได้แบบ Full stack ก็ได้มีโอกาสศึกษาการทำ Front-End เพิ่ม มีพี่ๆ ในทีมคอยช่วยเหลือ มีโค้ชชิ่ง มีคอร์สให้ศึกษาเพิ่มเติมแล้วแต่ความสนใจ เคยคิดว่า SCB ต้องมีกฎระเบียบ ต้องใส่ยูนิฟอร์ม แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ใส่ชุดไปรเวทได้ แต่แค่ให้เหมาะสมตามกาลเทศะ ส่วนการทำงานก็ทำแบบ Agile มี Stand up meeting ตอนเช้าทุกวัน เพื่อคุยปัญหา ติดตามกระบวนการทำงาน ทำให้รู้สึกว่างานมันเดินหน้าได้ไว และช่วยกันแก้ปัญหา มณีรัตน์ ชัยชนากานต์ (เนย) Software Engineer เช่นเดียวกับน้องเฟิร์น คือจบใหม่ๆ สดๆ ร้อนๆ เพิ่งทำงานที่นี่ได้ 3 เดือนเท่านั้น มีหน้าที่ดูแลส่วน frontend ของ เว็บไซต์ภายในองค์กร โดยใช้ react js ความท้าทายที่เจอคือ จากที่เคยที่ถนัดในการทำงานส่วนของ Back-End ไม่ค่อยได้ทำงานในส่วนของ Front-End มากเท่าไหร่ เคยทำแค่ CSS, HTML พอมาที่นี่ก็ได้เพิ่มทักษะส่วน Front-End มากขึ้น ได้เขียน React, Reduct, SAGA ทำให้เราได้พัฒนาตนเองให้เป็น developer ที่สามารถทำงานแบบ FullStackได้ และได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้มีการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา รู้สึกตัวเอง active มากขึ้น ที่นี่จะมีการจัดกิจกรรม Booth Camp 2-3 เดือนให้สำหรับน้องๆที่จบใหม่ มีการสอนทักษะของ QA, automate test, JAVA Framework, mobile application(ios, android) ซึ่งเป็นความรู้ที่สามารถนำมาใช้ทำงานจริงได้ วัฒนธรรมการทำงานแบบ Agile ของที่นี่ช่วยให้เราได้เห็นปัญหาและสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น ทำให้งานเสร็จได้ตามกำหนดและมีประสิทธิภาพ ช่องทางการสมัคร SCB Digital สามารถดูตำแหน่งและสมัครงานได้ที่ Blognone Jobs Topics: SCBSCB EasyBlognone Workplace