ซาอุดิอาระเบีย ลดระดับความสัมพันธ์กับไทยอีกครั้ง ด้วยการเรียกตัวอุปฑูตกลับประเทศ คาดกันว่าเกิดจากการไม่พอใจกรณีผลคดีอุ้มฆ่า อัลรูไวลี่ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศซาอุดิอาระเบีย ถูกลดความสัมพันธ์อีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดกับคดีอุ้มฆ่า นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยถึงสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุฯ ในขณะนี้ว่า ทางการซาอุฯ ได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลงอีกโดยให้เจ้าหน้าที่ระดับเลขานุการโท เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายอับดุลอิลาห์ อัลชุ อัยบี อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ซึ่งถูกเรียกตัวกลับประเทศไปก่อนหน้านี้ราหนึ่งเดือนแล้วและได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทยอย่างเป็นทางการแล้ว และ ยังไม่มีการแสดงท่าทีใดๆ ออกมาอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้จากกระทรวงการต่างประเทศของไทย โดยสาเหตุที่ทางการซาอุฯเรียกตัวอุปทูตกลับประเทศนั้น เหตุผลหลักมาจากความไม่พอใจผลการตัดสินคดีอุ้มฆ่านายอัลรูไวลี่ เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา รวมถึงประเด็นการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาก่อนหน้านั้นด้วย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่านักเรียนไทยชาวมุสลิมถูกส่งตัวกลับจากประเทศซาอุฯ และยังมีนักธุรกิจชาวไทยถูกปฏิเสธไม่ให้ทำวีซ่าเข้าซาอุฯด้วยก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการลดระดับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ พร้อมพวกรวม 5 คน ตกเป็นจำเลยในคดีอุ้มฆ่านายอัลรูไวลี่ ด้าน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ การที่อุปฑูตซาอุฯถูกเรียกตัวกลับไปน่าจะเป็นเรื่องการเรียกตัวไปหารือข้อราชการโดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่มีอาวุโสสูงสุดในสถานทูตคือเลขานุการโทของสถานเอกอัครราชทูตทำหน้าที่อุปทูตซาอุฯ อีกทั้งทางซาอุฯไม่ได้ระบุว่าจะลดระดับความสัมพันธ์กับไทย เพราะขณะนี้สถานทูตซาอุฯยังปฏิบัติงานอยู่เช่นเดิม ส่วนเรื่องการส่งนักเรียนมุสลิมกลับ และการปฏิเสธวีซ่านักธุรกิจไทยนั้น ขณะนี้ตนยังไม่ทราบข้อมูล