เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ล้มแผนเข้าตลาดหุ้นสิงคโปร์โดยการทำดูโอ ลีสติ้ง เหตุระบบการจัดการยุ่งยาก นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจชีวพลังงานและผลิตภัณฑ์ บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น(KTIS) เปิดเผยว่าจากการที่ตลาดหลักทัรพย์สิงคโปร์ เข้ามาชักชวนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยการจดทะเบียนดูโอ ลีสติ้ง เข้าจดทะเบียน 2 ตลาด โดยความคืบหน้า ขณะนี้บริษัทมองว่า ไม่น่าสนใจเพราะการดำเนินการดังกล่าวเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับไม่น่าจูงใจ และมีกฎระเบียบค่อนข้างมาก "ในช่วงเดือนที่ผ่านมา กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เข้าพบกับ บริษัทด้วยตัวเอง เพื่อชักชวนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ซึ่งบริษัทพิจารณา แล้วการเข้าจดทะเบียนไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากการเข้าจดทะเบียนมีขั้นตอนที่มาก และไม่คุ้มค่ากับการดำเนินงาน" เขากล่าวว่า จากการพิจารณาของบริษัทในคณะกรรมการชุดย่อย มีความเห็นว่า ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์มีความเข้มงวดในหลายด้าน แม้ข้อกำหนดต่างๆ ของทางตลาดหุ้นสิงคโปร์บริษัทได้ผ่านทั้งหมด แต่บริษัทต้องปรับระบบบางอย่าง เกิดความยุ่งยากในระบบบัญชี ได้ประโยชน์ด้านชื่อเสียงเท่านั้น และหลายบริษัทขนาดใหญ่ของไทย ไม่ประสบความสำเร็จในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ อย่างไรก็ตามบริษัทต้องนำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการชุดใหญ่ของบริษัท คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายไตรมาสที่ 3/2557 สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้นั้น บริษัทยังเชื่อว่า น่าจะดีกว่าปีก่อน แม้ราคาน้ำตาลยังอยู่ในระดับต่ำ โดยอยู่ในกรอบราคา 15-16 เซนต์ต่อปอนด์ แต่บริษัทมอง ว่าราคาน้ำตาลในปัจจุบันน่าจะอยู่ในระดับต่ำสุดแล้ว และราคาน้ำตาลน่าจะกลับตัวเพิ่มขึ้นได้ในปีหน้าเนื่องจากกำลังการผลิตอ้อยทั่วโลกจะลดลง 2 % กดดันให้น้ำตาลจะมี ปริมาณลดลงในระดับ 5 % ส่งผลให้ราคาน้ำตาลในปีหน้าน่าจะอยู่ที่ 19-20 เซนต์ต่อปอนด์ ส่วนกำลังการผลิตน้ำตาลในประเทศนั้นมองว่าราคาน่าจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้น หลัง จากเขตพื้นที่การปลูกอ้อยในหลายจังหวัดเจอภัยแล้ง แต่ในเขตที่ตั้งโรงงานไม่ประสบปัญหาดังกล่าว ในครึ่งปีแรกนั้นบริษัทมีรายได้ทั้งสิ้น 8,897.91 ล้านบาท มาจากธุรกิจน้ำตาล 6,116 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 8,376 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ลดลงเกิด จาก การส่งมอบน้ำตาล มูลค่า 2,200 ล้านบาท ล่าช้ากว่ากำหนด และคาดว่าจะส่งมอบได้ในครึ่งปีหลัง จะช่วยหนุนให้รายได้ในกลุ่มน้ำตาลปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งบริษัทมีมุมมองที่ ดีกับธุรกิจน้ำตาล โดยมองว่ายอดขายในครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่วนรายได้จากเอทานอลนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 917 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 864 ล้านบาท แม้ปริมาณการขายลดลงเหลือ 36,330 ลิตร จากช่วงเดียวกันของปี ก่อน ที่ 39,101 ลิตร เป็นผลจากราคาเอทานอลที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 25.23 บาทต่อลิตร จากปีก่อนที่ 22.85 บาทต่อลิตร ซึ่งบริษัทมีการควบคุมต้นทุนที่ดี และมีต้นทุนที่ต่ำกว่าอุตสาหกรรม ส่วนรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้า ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 533 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 99 ล้านบาท ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของบริษัทในครึ่งปีแรก มาจากการผลิตและน้ำตาล 69% จากการเยื่อกระดาษ 11% ไฟฟ้าจากชานอ้อย 6% และอื่น 4% ในครึ่งปีหลังบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ น้ำตาลทรายที่มีบริสุทธิคุณภาพดีกว่าปกติโดยร่วมกับพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาสินค้าดัง กล่าว ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่สูง โดยคาดว่าจะสามารถออกผลิตภัณฑ์ได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเปิดโรงไฟฟ้าไบโอแมส 2 แห่ง กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มจ่ายไฟได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 และต้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม วันที่ 11 มิ.ย. 2557 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา มีมติอนุมัติการ เพิกถอนหุ้นของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนบนกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดย กำหนดวันที่ 16 ก.ย.2557 เป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และวันที่ 17 ก.ย 2557 เป็นวันแรกระงับการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เนื่องจากบริษัทไม่มีและไม่ประสงค์จะระดมทุนเพิ่มเติมโดยวิธีการออกหุ้นเพิ่มทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยบริษัทจะระดมทุนเพิ่มเติม ในอนาคตผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำหรับการเพิกถอนหุ้น จะส่งผลให้หุ้นของบริษัทถูกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ราคาหุ้นบริษัทเกษตรไทยเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2557 ราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดปิดตลาดที่ราคา 11.50 บาท Tags : ณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล • เกษตรไทย • KTIS