"สมาคมตราสารหนี้"เผย1-8ส.ค.เงินต่างชาติไหลออก3.68 หมื่นล. เหตุเงินสั้นขายทำกำไร ขณะที่เงินระยะยาวซื้อต่อเนื่อง นายสุชาติ ธนฐิติพันธ์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (THAIBMA) เปิดเผยว่า ช่วง 1 - 8 ส.ค. 57 มีเงินต่างชาติไหลออกสุทธิจากตลาดตราสารหนี้ 36,800 ล้านบาท เป็นการไหลออกจากตราสารหนี้ระยะสั้น 38,800 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายตราสารหนี้ระยะสั้น 32,100 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ครบอายุ 6,700 ล้านบาท ขณะที่มีการซื้อตราสารหนี้ระยะยาวเข้ามา 2,000 ล้านบาท หากนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันพบว่าเงินต่างชาติเป็นยอดไหลเข้าสุทธิแล้ว 32,000 ล้านบาท โดยเป็นการไหลเข้าจากตราสารหนี้ระยะสั้น 12,900 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อตราสารหนี้ระยะสั้น 193,000 ล้านบาท และตราสารหนี้ที่ครบอายุ 180,000 ล้านบาท โดยมีการซื้อตราสารหนี้ระยะยาว 19,200 ล้านบาท ทำให้ยอดถือครองตราสารหนี้ต่างชาติล่าสุดอยู่ที่ 741,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนตราสารหนี้ระยะสั้น 23% และตราสารหนี้ระยะยาว 77% “การไหลออกในช่วง 1 - 8 ส.ค. นี้ เป็นการไหลออกใสตราสารหนี้ระยะสั้น ไม่น่ากังวลเพราะต่างชาติยังเข้ามาซื้อตราสารหนี้ระยะยาวต่อเนื่อง การขายตราสารหนี้ระยะสั้น เป็นการขายทำกำไรปกติ เพราะช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เงินไหลเข้าตราสารหนี้ระยะสั้นมากกว่า 60,000 ล้านบาท ทำให้ผลตอบแทนระยะสั้นปรับตัวลงเฉลี่ย 0.05% บวกกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นจังหวะให้นักลงทุนขายกำไรออกบางส่วน” นายสุชาติ ยังกล่าวอีกว่า แต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา โอกาสที่ผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นจะลดลงเหมือนช่วงเดือนที่ผ่านมา อาจน้อยลง ในส่วนตราสารหนี้ระยะยาว ผลตอบแทนของตราสารหนี้ไทยยังคงน่าสนใจ เมื่อเทียบกับตราสารหนี้สหรัฐและตราสารหนี้ในภูมิภาคด้วยกัน ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ยังฟื้นตัวแบบเปราะบาง ทำให้ตลาดประเมินว่า การขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐไม่เร็ว อาจเป็นช่วงครึ่งหลังของปี 2558 ไปแล้ว จะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้มีเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ในเอเชียต่อเนื่อง และจากเงินทุนที่ยังไหลเข้ามาในตราสารหนี้ระยะยาวเดือนนี้ ทำให้ผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวปรับตัวลงแล้วเฉลี่ย 0.05-0.07% ขณะที่ผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นไม่เปลี่ยนแปลง “ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติ ถือครองตราสารหนี้ไทย 8.3% ของตลาดรวม แต่จะมีสัดส่วน 17% ในตลาดพันธบัตรภาครัฐ ซึ่งยังคงต่ำกว่าในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ที่มีสัดส่วนค่อนข้างสูง 30-40% ซึ่งทำให้ค่าเงินของทั้ง 2 ประเทศ ก็จะมีความผันผวนมากกว่าไทยด้วยเช่นกันจากเงินต่างชาติที่ไหลเข้าออก” นายสุชาติ กล่าวเสริมว่า ในเดือนส.ค.ยอดอกหุ้นกู้ของเอกชน มีประมาณ 18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค. ที่มียอดออกเพียง 20,000 ล้านบาท เพราะบริษัทที่เลี่ยงการออกในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ก็ขยับมาออกในเดือนนี้แทน "ทั้งเดือนตัวเลขน่าจะสูงขึ้นได้อีก หากนับตั้งแต่ต้นปีมามียอดออกหุ้นกู้ 343,000 ล้านบาท มีอายุเฉลี่ย 4 ปี อันดับเครดิตเฉลี่ย A และมีผลตอบแทนเฉลี่ย 4.5% ยังสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลช่วงอายุใกล้กัน 1.5-2.0% จึงทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปค่อนข้างมาก และทั้งปียังยอดออกจะได้ตามเป้า 450,000 ล้านบาท" Tags : นายสุชาติ ธนฐิติพันธ์ • สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย • เงินสั้น • เงินระยะยาว • เงินนอก