ค้าปลีกกำไรครึ่งปีลดลง5% พิษ"ศก.-การเมือง"กดกำลังซื้อ "โฮมโปร"หวังครึ่งปีหลังกำลังซื้อในกรุงเทพฯฟื้น กลุ่มค้าปลีก 13 บริษัท โชว์กำไรรวมครึ่งแรกปีนี้ 14,429 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.37% "ออฟฟิศเมท" มาแรงทำกำไรเพิ่มขึ้น 20% สวนทางเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ กำไรลดลงเกือบ 35% โบรกเกอร์เผย สาเหตุรับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว และการเมืองฉุดรั้งกำลังซื้อ ทำให้ผลประกอบการออกมาไม่ดีนัก "โฮมโปร" มองครึ่งปีหลังสดใส เหตุเป็นช่วงไฮซีซัน กำลังซื้อเขตกรุงเทพฟื้น มองกำไรเติบโตระดับ 15% เตรียมขยายสาขาครึ่งปีหลังอีก 5 สาขาทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าแยกตั้งกองรีท เล็งจัดตั้งได้ปี 2558 สำหรับผลการดำเนินงานกลุ่มค้าปลีกทั้งหมด 13 บริษัท ปรากฏว่า ทั้งกลุ่มมีผลการดำเนินครึ่งแรกปีนี้รวม 14,729.41 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิรวม 15,565.96 ล้านบาท ลดลง 836.82 ล้านบาท หรือลดลง 5.37% ทั้งนี้ บริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) มีผลการดำเนินงานปรับตัวลดลง โดยครึ่งแรกปีนี้มีกำไรสุทธิรวม 844.12 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1298.29 ล้านบาท ลดลง 34.98% ขณะที่โกลบอล มีกำไรสุทธิ 398.88 ล้านบาท แต่งวดเดียวกันของปีก่อนสามารถทำกำไรได้ถึง 523.62 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรลดลง 23.82 ล้านบาท ส่วนไอที ครึ่งแรกปีนี้ยังคงขาดทุนเพิ่มขึ้น โดยมีผลขาดทุน 18.84 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุน 10.48 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 79.77% ด้านออฟฟิศเมท มีกำไรสุทธิ 217.55 ล้านบาท โดยช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 181.07 ล้านบาท มีกำไรเพิ่มขึ้น 20.15% นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ผลประกอบการกลุ่มค้าปลีกในครึ่งปีแรก ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และปัญหาการเมืองที่ฉุดรั้งกำลังซื้อ ทำให้ผลประกอบการออกมาไม่ดีนัก และหลายบริษัทมีผลประกอบการชะลอตัวชัดเจน ซึ่งมีมุมมองว่าครึ่งปีหลังกลุ่มค้าปลีกน่าจะสามารถฟื้นตัวได้ จากแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 และรัฐบาลอาจมีนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาในระยะสั้น สำหรับมุมมองด้านการลงทุนนั้น เรามองยังสามารถลงทุนได้ในกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มผลิตเครื่องสำอาง เพราะเป็นธุรกิจเดียวที่ครึ่งปีแรกไม่ได้รับผลกระทบการชะลอตัว และครึ่งปีหลังจะเติบโตดีจากการขยายสาขาในต่างประเทศ นางสาววรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบัญชีการเงินและกฎหมาย บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 15% จากปีก่อน โดยครึ่งปีหลังเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวโดดเด่น ในสาขากรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ในพื้นที่ต่างจังหวัดการฟื้นตัวยังไม่มากนัก "สาขาในเขตกรุงเทพฯ เราเห็นการฟื้นตัวโดดเด่น มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นช่วงเข้าใกล้ฤดูหนาว จะมีการแต่งงาน การแต่งบ้านเพิ่มขึ้น ซึ่งปกติแล้วครึ่งปีหลัง จะเป็นช่วงที่มีรายได้ดีอยู่แล้ว ตามฤดูกาลของธุรกิจส่วนกำลังซื้อในต่างจังหวัด ที่อยู่ในเขตเกษตรกรรม ยังไม่มีการฟื้นตัวเท่าที่ควร" เขากล่าวว่า กลยุทธ์ครึ่งปีหลัง เน้นทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิกของบริษัทกว่า 2 ล้านราย มียอดการซื้อสินค้าเป็นประจำอยู่ที่ 60-80% ของลูกค้าทั้งหมด โดยเน้นหาสินค้าที่ตรงตามความต้องการลูกค้ามากขึ้น ส่วนการลงทุนบริษัทตั้งงบลงทุน 8 พันล้านบาท ใช้เปิดสาขาปีนี้ของโฮมโปร 8 สาขา เมกะโฮม 2 สาขา โดยเปิดสาขาในประเทศครึ่งปีหลัง 4 สาขา ส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีสาขาโฮมโปรทั้งสิ้น 71 สาขา และเมกะโฮม 4 สาขา และยังขยายสาขาในมาเลเซีย 1 สาขา ซึ่งในมาเลเซียจะเป็นการเข้าไปเช่าพื้นที่ 6-8 พันตารางเมตร มูลค่าลงทุน 600-800 ล้านบาท คาดจะเปิดให้บริการปลายปีนี้ ส่วนผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก แม้จะมีผลกระทบจากปัญหาการเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่บริษัทมียอดขาย 23,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20.9% มีกำไรสุทธิ 1,519 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.8% แต่มีอัตราทำกำไรสุทธิลดลงมาอยู่ที่ 6.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 7.4% การจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ร่วมจัดตั้งกองกับ เทอมินอล 21 ที่ตามแผนจะตั้งกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์แอลเอชชอปปิงเซ็นเตอร์ ได้แยกออกออกมาจัดตั้งกอง เพราะสินทรัพย์ทั้งสองชิ้นมีมูลค่ามากพอที่จะระดมทุนด้วยตัวเอง ทั้งนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อที่จะตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ในปี 2558 โดยจะนำศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน ไปยังกองทรัสต์ที่จะตั้งขึ้นใหม่ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายต่อสาขาของบริษัทในครึ่งปีหลังจะปรับตัวลดลง 4-5 % จากการแย่งลูกค้ากันเอง ในการเปิดสาขาที่ 2 และสาขาที่ 3 ในจังหวัดขนาดใหญ่ โดยผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงถูกกดดันจากการขาดทุนของเมก้าโฮม และการขยายสาขาในประเทศมาเลเซียที่คาดจะใช้เวลา 4-5 ปี กว่าจะถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งผลดังกล่าวจะกดดันกำไรสุทธิของบริษัทให้ปรับตัวลดลงเหลือ 9% Tags : ค้าปลีก • กำไร • เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ • โฮมโปร • การเมือง • บล.บัวหลวง