สินเชื่อครึ่งปีหลังสัญญาณฟื้น

แบงก์ชาติ เผยสัญญาณสินเชื่อเริ่มฟื้น หลัง 2 เดือนที่ผ่านมา ยอดอนุมัติใหม่พุ่ง 1 แสนล้านบาท

นายอานุภาพ คูวินิชกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สินเชื่อรวมทั้งระบบไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เติบโต 7.3% แม้จะชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นในช่วงปลายไตรมาส ทำให้เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ การเติบโตของสินเชื่อจะออกมาดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก

"คิดว่าครึ่งปีหลัง สินเชื่อน่าจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เพราะถ้าดูแนวโน้มการให้สินเชื่อในไตรมาสแรกของปี แบงก์ทั้งระบบมีการปล่อยสินเชื่อใหม่ออกไปประมาณ 8.6 หมื่นล้านบาท ส่วนไตรมาส 2 มียอดสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท โดยเป็นการปล่อยในช่วง 2 เดือนท้ายของไตรมาส รวมกว่า 1 แสนล้านบาท ถ้าดูแบบนี้จะเห็นว่า แนวโน้มเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 แล้ว" นายอานุภาพ กล่าว

สำหรับประมาณการสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ โดยส่วนใหญ่ยังคงเป้าการเติบโตในปีนี้ไว้ที่ 6-8% ลดลงเล็กน้อยจากช่วงต้นปีที่เคยประเมินไว้ที่ 8-10% ซึ่งเป็นผลจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาการเมืองในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ไตรมาส 2 ปีนี้ ยังคงทรงตัวที่ 2.3% ส่วนหนี้ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ (เอสเอ็ม) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 2.4% เชื่อว่าการปรับเพิ่มของหนี้เอสเอ็มคงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก สะท้อนผ่านแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น ประกอบกับธนาคารพาณิชย์ได้ติดตามลูกหนี้เหล่านี้ใกล้ชิด

นายอานุภาพ กล่าวว่า ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบได้กันสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มอีก 8.6 พันล้านบาท ทำให้ยอดการกันสำรองของทั้งระบบเพิ่มขึ้นเป็น 4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นสำรองส่วนเกินที่สูงกว่า 1.6 แสนล้านบาท จึงถือว่าธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบมีเบาะรองรับกับปัญหาคุณภาพสินเชื่อได้พอสมควร ดังนั้นความจำเป็นที่ต้องกันสำรองเพิ่มขึ้นมากๆ ในอนาคตคงไม่มี

ส่วนหนี้เอสเอ็มของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ล่าสุดปรับเพิ่มมาอยู่ที่ 8.2% เขากล่าวว่า โดยปกติสินเชื่อกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนเอสเอ็มที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว เพียงแต่การพัฒนามาเป็นเอ็นพีแอลมีค่อนข้างน้อย เพราะธนาคารพาณิชย์มีระบบบริหารจัดการ โดยการยึดรถที่ค้างชำระแล้วขายออกไป ทำให้ปัญหาการพัฒนามาเป็นเอ็นพีแอลจึงน้อย

ในช่วงที่ผ่านมา มีข้อกังวลอยู่บ้าง หลังจากที่ราคารถยนต์มือสองในตลาดปรับลดลงไปราว 20-30% ทำให้ธนาคารพาณิชย์ที่ยึดรถจากลูกค้าซึ่งค้างชำระ แล้วนำออกขายในตลาดเกิดผลขาดทุนจากราคารถยนต์ที่ปรับลดลง ทำให้เกิดผลขาดทุนในส่วนนี้ จึงทำให้ธนาคารพาณิชย์ชะลอการทำธุรกิจดังกล่าว

"ตอนนี้แบงก์เองก็เริ่มชะลอการทำธุรกิจนี้ออกไปเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีความเสี่ยงสูง ทั้งตัวธุรกิจและตัวรถยนต์ ดังนั้นธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์มือสองในขณะนี้จึงชะลอลงไปมาก แบงก์เองก็หันไปโฟกัสที่รถใหม่มือหนึ่งมากขึ้น"นายอานุภาพกล่าว

สำหรับแนวโน้มความเข้มงวดในการให้สินเชื่อโดยภาพรวมทั้งระบบนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ได้เพิ่มระดับความเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น จึงเชื่อว่าระยะต่อไปธนาคารพาณิชย์โดยรวมอาจลดความเข้มงวดเหล่านี้ลงบ้าง และถ้าดูจากยอดอนุมัติสินเชื่อใหม่ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีสัดส่วนในการปฏิเสธสินเชื่อลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40%

ด้านนายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.5% จากการชะลอตัวในช่วงครึ่งแรกของปี แต่ปี 2558 จะเห็นการเติบโตที่สูงกว่านี้ ขณะที่การขยายสินเชื่อในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 7-8%

ส่วนเรื่องของหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอลยังไม่เป็นประเด็นในขณะนี้ สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้จะไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย แต่ไม่ใช่เรื่องเล็ก จึงต้องจับตาใกล้ชิด ซึ่งวิธีแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนคือการลดภาระหนี้ลงไป โดยหนี้นอกระบบถือเป็นปัญหาส่วนหนึ่ง แต่การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในกรอบของความพอดี

ส่วนนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ช่วงครึ่งหลังของปีความเชื่อมั่นเพิ่มเพิ่มขึ้น ทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจจะดีกว่าครึ่งแรกของปีและน่าจะทำให้เศรษฐกิจปี 2558 ขยายตัวได้ 5.5% ขณะที่การขยายสินเชื่อของธนาคารในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 9% จากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวในระดับต่ำกว่า 8% โดยครึ่งแรกของปีสินเชื่อเติบโตแล้ว 2.29% เนื่องจากเริ่มเห็นโมเมนตัมที่ชัดเจนขึ้นตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ที่ดีขึ้น ทำให้ครึ่งปีหลังคาดจะมีการแข่งขันแย่งลูกค้ากลับมาอีกครั้ง และการฟื้นตัวจะชัดเจนในปีหน้า โดยธุรกิจที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวได้แก่ก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน ระบบคมนาคมขนส่ง

สำหรับความสามารถในการทำกำไรปีนี้ คาดว่าจะเป็นไปตามเป้า หลังจากครึ่งแรกของปีมีกำไรสุทธิ 2.3 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าเล็กน้อย แม้ครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงที่มีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเพิ่มขึ้นก็ตาม ส่วนเอ็นพีแอลสิ้นปีนี้คาดจะอยู่ที่ 2.14% จากสิ้นปีก่อนที่ 2.11%

Tags : อานุภาพ คูวินิชกุล • สินเชื่อ • ธปท. • ธนาคารพาณิชย์