'ซีพีเอฟ'คาดรายได้เกิน4แสนล.

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 15 สิงหาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "ซีพีเอฟ" มั่นใจรายได้ปีนี้เกิน 4 แสนล้านบาท โต 15% ตามเป้า หลังธุรกิจสัตว์บกฟื้นตัว

    นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ (CPF) เปิดเผยว่า ปีนี้รายได้บริษัทจะเติบโตได้ตามเป้าที่ 15% หรืออยู่ในระดับกว่า 4 แสนล้านบาท ผลจากธุรกิจสัตว์บกที่ฟื้นตัว และปัญหาโรคระบาดในกุ้งคลี่คลายดีขึ้น โดยครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 2.03 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% และมีกำไรสุทธิ 5.59 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 110% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจาก 9% เป็น 14%

    โดยยอดขายของกิจการในไทยเติบโต 8% ขณะที่ยอดขายของกิจการในต่างประเทศเติบโต 16% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจสัตว์บกโดยเฉพาะในไทยและเวียดนามที่ประสบภาวะผลผลิตล้นตลาดในปีที่ผ่านมา และการปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจสัตว์น้ำในต่างประเทศ

    เฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 1.05 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายกิจการในประเทศที่เพิ่มขึ้น 10% และยอดขายของกิจการในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น 16% และมีกำไรสุทธิ 3.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 117% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากประสิทธิภาพการเลี้ยงสัตว์ที่ดี ราคาเฉลี่ยของเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น

    "ครึ่งปีแรกถือว่าผลการดำเนินงานของบริษัท เติบโตตามเป้าที่วางไว้ และช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก ธุรกิจสัตว์บกเป็นธุรกิจหลักที่มีการฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติ แม้ธุรกิจสัตว์น้ำในไทยชะลอตัวอยู่ แต่คาดครึ่งปีหลังนี้ จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นของการเลี้ยงกุ้ง ประกอบกับบริษัทเห็นว่าธุรกิจสัตว์น้ำในต่างประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นจะส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น"

    การส่งออกไก่ของบริษัทยังดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกญี่ปุ่นมีคำสั่งซื้อเพิ่มเข้ามา หลังมีกรณีความเสียหายของเนื้อไก่จากประเทศจีน และยังได้อานิสงส์จากกรณีที่รัสเซียประกาศระงับการซื้อสินค้าเนื้อสัตว์จากสหภาพยุโรป (อียูและสหรัฐ) ซึ่งจะทำให้รัสเซียอาจหันมานำเข้าจากผู้ผลิตในแถบเอเชียเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ราคาเนื้อสัตว์ในรัสเซียสูงขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทในประเทศรัสเซียด้วย

    บริษัทได้ขายเงินลงทุน 25% ในบริษัท ซีพีพี (CPP) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จะทำให้ได้เงินสดเข้ามา 2.5 หมื่นล้านบาท โดยส่วนนี้บริษัทจะนำไปใช้หนี้ตามแผนงานการทำให้ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ดีอี)ของบริษัทจะปรับลดลงจาก 1.37 เท่า เหลือ 1 เท่า

    ด้านบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 1,522 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 324% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2556 ขณะที่กำไรสุทธิของ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 2,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139% โดยกำไรสุทธิสูงขึ้น เพราะการขยายตัวของกำไรขั้นต้นจาก 11.7% ในครึ่งปีแรกของปีที่แล้ว ไปที่ 15.5%ของปีนี้ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของกำไรขั้นต้นของธุรกิจปลาทูน่า กุ้งแช่แข็ง และธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

    ทียูเอฟ มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของทั้งกลุ่มธุรกิจในไตรมาส 2 ปีนี้ โดยมียอดขายที่ 30,258 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% เมื่อเทียบกับยอดขาย 28,119 ล้านบาทของไตรมาสเดียวกันในปี 2556 ยอดขายของทั้งกลุ่มธุรกิจใน 6 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 58,207 ล้านบาท เติบโต 10.7% หากพิจารณายอดขายในรูปดอลลาร์เติบโตขึ้น 2.1%

    รายได้ที่สูงขึ้นเป็นผลจากหลายปัจจัยหลัก ได้แก่ ความแข็งแกร่งของแบรนด์ธุรกิจปลาทูน่าในตลาดต่างประเทศ มียอดขายเพิ่มขึ้น 18.9% ช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ธุรกิจกุ้งที่ยังเติบโตได้ดีแม้ต้องเผชิญปัญหากุ้งขาดแคลนในตลาดโลก เพราะการระบาดโรคอีเอ็มเอส (EMS) รวมไปถึงการเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกด้วย

    นอกเหนือไปจากปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตต่างๆ ดังกล่าวมา ปัจจัยค่าเงินบาทอ่อนตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน มีส่วนช่วยให้กำไรขั้นต้นขยายตัวและส่งผลให้กำไรสุทธิสูงขึ้นในที่สุด

    Tags : อดิเรก ศรีประทักษ์ • ซีพีเอฟ • รายได้ • สัตว์บก

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้