กกต. เริ่มเปิดรับเสนอชื่อบุคคลเป็นสมาชิก สปช.แล้วตั้งแต่เช้า ยันซักซ้อมมีความพร้อมแล้ว ใช้เวลา 50 วันสรรหา ขณะที่ เลขาฯกกต. พร้อม 100% ในทุกขั้นตอน คาดวันนี้ มีการยื่นเอกสารเสนอบุคคลเข้ารับการสรรหาน้อย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เริ่มเปิดรับเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แล้วตั้งแต่เวลา 08.30 น. ที่ผ่านมา โดย นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้สำนักงาน กกต. ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของการสรรหาสมาชิก สปช. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต. ได้มีความพร้อมโดยได้มีการประชุมซักซ้อมถึงขั้นตอนการรับเสนอรายชื่อเมื่อวานนี้ และมีการประสานหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่ได้รับการเสนอรายชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิก สปช. โดยกระบวนการสรรหานั้นจะใช้เวลาทั้งหมด 50 วัน แบ่งเป็นช่วงเวลาที่เปิดรับการเสนอชื่อ 20 วัน ช่วงตรวจสอบคุณสมบัติ 10 วัน และเมื่อตรวจสอบเสร็จสิ้นสำนักงาน กกต. ก็จะส่งรายชื่อให้คณะกรรมการสรรหา สปช. ที่ คสช. พึ่งแต่งตั้งให้คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมอย่างน้อยด้านละ 50 คน แล้วจึงส่งให้ คสช. พิจารณาคัดเลือก ซึ่งสมาชิกทั้งหมด 11 ด้าน จะต้องไม่เกิน 173 คน และเมื่อไปรวมกับการสรรหาแบบจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด จังหวัดละ 1 คน ก็จะได้ สปช. ในจำนวนไม่เกิน 250 คน เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทูลฯ ต่อไป อย่างไรก็ตาม การสรรหาในระดับจังหวัดก็จะดำเนินการไปพร้อม ๆ กับส่วนกลาง โดยล่าสุดได้รับรายงานว่าบางจังหวัดเริ่มมีการประชุมเพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมแล้ว กกต. พร้อม 100% ดำเนินการสรรหา สปช. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า กกต. มีพร้อม 100% ในการรับสมัคร และตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช). แต่คาดวันนี้จะยังมีจำนวนไม่มาก เนื่องจากเพิ่งมีการออกประกาศอย่างเป็นทางการ และมีหลายองค์กร ได้โทรศัพท์มาสอบถาม เพื่อรับเอกสารเท่านั้น ส่วนคณะกรรมการสรรหาทั้ง 11 ชุด 77 คน ตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 121 เมื่อวานนี้ นับเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเหมาะสม และเป็นที่ยอมรับเป็นอย่างมาก คาดว่าน่าจะสามารถประชุม เพื่อคัดเลือกประธานของแต่ละฝ่ายได้ใน 1-2 วันนี้ ขณะที่ในส่วนภูมิภาคได้ประชุมเลือกประธานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ นายภุชงค์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า รู้สึกเสียดายที่หลายพรรคการเมืองจะไม่ส่งคนเข้าร่วม แต่เชื่อว่า พรรคอื่น ๆ ที่ส่งก็น่าจะสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน วันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปได้ สำหรับกรอบการหลังเปิดรับสมัคร ก็จะตรวจสอบคุณสมบัติให้เสร็จสิ้นภายใน วันที่ 12 ก.ย. จากนั้นวันที่ 13-22 ก.ย. ก็จะส่งชื่อทั้งหมดให้กับคณะกรรมการสรรหาเลือกให้เหลือด้านละ 50 คน รวม 550 คน และจากแต่ละจังหวัด อีก 385 คน เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 250 คน ในสัดส่วนจังหวัดละ 1 คน 77 จังหวัด และ 11 ด้าน อีก 173 คน เพื่อนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป