ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจพื้นที่ตึก 6 ชั้นถล่มทับคนงาน บอก หน.คสช. เป็นห่วง สั่งเร่งช่วย ขณะคนงานที่กำลังจะตัดขาช่วยชีวิตเสียชีวิตแล้ว สูญหายอีก 7 ด้านนายกวิศวะฯ เผย ตึกถล่มเร่งสร้างปูนไม่แห้งเจ้าของหนีหาย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมการให้ความช่วยเหลือ เหตุอาคารคอนโดยูเกสต์ ย่านคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี ถล่มและทับคนงาน โดยกล่าวว่า ทางหัวคณะรักษาความสงแห่งชาติ หรือ คสช. มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับให้ประสานกับหน่วยราชการที่รับผิดชอบเหตุการณ์ในพื้นที่ ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งยืนยันว่าจะให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมอย่างเต็มที่ และการก่อสร้างอาคารใดๆ หลังจากนี้ จะต้องมีความรอบคอบเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยานั้น จะเป็นไปตามระเบียบราชการ และเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทั้งนี้ ส่วนตัวขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังคงเร่งค้นหาและให้การช่วยเหลือผู้ที่ยังคงติดอยู่ภายใต้ซากอาคารอย่างต่อเนื่อง ปลัดสธ.สรุปตัวเลขคนตายตึกถล่มล่าสุด3เจ็บ24 นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปติดตามสถานการณ์ และบัญชาการการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด ที่บริเวณคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่างก่อสร้าง 6 ชั้น ที่คลอง 6 จังหวัดปทุมธานี ถล่มเมื่อช่วงเย็นวานนี้ และกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน จำนวน 6 ทีม ร่วมกันช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังอย่างเร่งด่วน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยประสานกับหน่วยกู้ภัยตลอดเวลา นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า จากการประเมินสถานการณ์เช้าวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุ แพทย์ดมยา เครื่องมือผ่าตัด เลือด เครื่องกระตุ้นหายใจ เครื่องช่วยหายใจ พร้อมรถพยาบาล จากโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว และโรงพยาบาลธัญบุรี เพื่อช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บอย่างเต็มกำลังความสามารถ คาดว่ามีผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีก 7 ราย ในจำนวนนี้มีความหวัง 2 ราย เนื่องจากได้ยินสียงร้องขอความช่วยเหลือ เป็นชายทั้ง 2 ราย และเห็นขา 1 ราย อีก 4 ราย ยังไม่พบ โดยในจำนวนผู้ที่มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พบตัวแล้ว 1 ราย ทีมแพทย์ได้ลงไปให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน เพื่อประคับประคองชีวิตโดยให้น้ำเกลือและออกซิเจน วางแผนการช่วยเหลือ อาจตัดสินใจผ่าตัดขาผู้ที่ถูกคานทับและนำตัวออกมาโดยเร็วที่สุด แต่ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 09.45 น. ส่วนอีก 1 ราย ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือแต่ยังต้องค้นหาอย่างเร็วที่สุด โดยได้ให้ทีมแพทย์ส่งท่อออกซิเจน ไปเพื่อเพิ่มอากาศหายใจในระหว่างที่รอทีมแพทย์ และทีมกู้ภัย ได้สั่งการให้โรงพยาบาลปทุมธานีเตรียมพร้อมห้องผ่าตัด ห้องฉุกเฉิน คลังเลือด ยาปฏิชีวนะ เพื่อพร้อมดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง สำหรับข้อมูลล่าสุด ณ เวลา 10.00 น. (12 สิงหาคม 2557) ได้รับรายงานมีคนงานทั้งหมด 33 คน เป็นไทย 24 ราย ต่างด้าว 9 ราย บาดเจ็บและช่วยเหลือออกมาได้ 24 ราย เสียชีวิต 3 ราย จนท.เร่งใช้เครนยกแท่งปูนช่วยผู้รอดชีวิต ความคืบหน้าเหตุอาคารกำลังก่อสร้างสูง 6 ชั้น ย่านถนนเลียบคลอง 6 พังถล่มทับคนงาน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ล่าสุดขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งให้การช่วยเหลือ นายเชษฐา กำภูชาติ 1 ใน ผู้ติดอยู่ภายใต้ซากอาคารและรอดชีวิตโดยนำรถเครนขนาดใหญ่มาทยอยยกแท่งปูนที่ทับอยู่ออก โดยเจ้าหน้าที่ได้วางแผนการให้ความช่วยเหลือด้วยความระมัดระวัง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความยากลำบาก อย่างไรก็ตาม น.พ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุโดยพูดคุยและประสานทีมแพทย์ในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป อธิบดี ปภ. ดูเหตุตึกถล่ม - ผวจ.ปทุมฯ สั่งเรียกวิศกรให้ปากคำ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และกล่าวว่า ตอนนี้เข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่ติดอยู่ภายในซากตึกที่ถล่ม โดยได้ประสานให้ทางหน่วยราชการ ทหาร หน่วยกู้ภัย เข้ามาช่วยเหลือดูแล จนกว่าจะช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่ติดอยู่ภายในซากตึกทั้งหมดออกมาได้ ส่วน นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวเพิ่มว่า ตอนนี้ ได้ให้ทาง ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าของโครงการ และวิศวกรผู้รับผิดชอบโครงการ มาให้ข้อมูลเบื้องต้นและสอบปากคำเพิ่มเติม จากการสอบถาม นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ เจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า มีผู้ที่ติดอยู่ภายในซากอาคาร 7 ราย เจอผู้ที่ติดอยู่ภายในแล้ว 3 ราย เจ้าหน้าที่พยามยามเข้าช่วยเหลือและพยายามนำออกมาจากซากอาคาร แต่ซากอาคารเกิดการทรุดตัวลง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ใช้หมอนลมค้ำซากอาคารไว้ไม่ให้ทรุดตัวมากกว่านี้ เพื่อที่จะสามารถนำตัวคนเจ็บที่ติดอยู่ออกมา ส่วน 4 รายที่ยังหาไม่พบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ได้เร่งค้นหาอยู่ คาดว่าจะพบในอีกไม่นานนี้ นายกฯ วิศวกรรมสถาน เสียใจตึกถล่ม-จนท. ยังเร่งช่วย นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เดินทางมาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอาคาร คอนโดยูเกสต์ ย่านคลอง 6 ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้พังถล่มลงมาทับคนงานเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เบื้องต้นได้ตั้งข้อสันนิษฐาน 3 ข้อ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ 1. เรื่องการออกแบบอาคาร 2. วัสดุก่อสร้างว่าได้มาตรฐานหรือไม่ และ 3. ขั้นตอนการก่อสร้าง ซึ่งส่วนตัวรู้สึกเสียใจและมองว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม จะมีการพูดคุยกับวิศวกรที่ควบคุมการก่อสร้างเพื่อให้ข้อมูลย้อนหลังก่อนเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะสามารถบอกสาเหตุของอาคารถล่มครั้งได้นี้ ส่วนบรรยากาศตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและเจ้าหน้าที่ทหารรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยรถเครนและเครื่องจักรขนาดใหญ่ยังคงเร่งรื้อซากอาคารเพื่อให้ความช่วยเหลือและค้นหาผู้ติดอยู่ภายในอาคารอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถนำผู้ติดภายใต้ซากอาคารออกมาเพิ่มเติมได้ ผู้ว่าฯ ปทุม เร่งช่วยเหลือคนติดซากตึกคลอง 6 ระงับก่อสร้าง นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผย ความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดใต้ซากอาคาร 6 ชั้น ซึ่งถล่มลงมา เมื่อวานนี้ ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมการทหารช่าง ทหารหน่วยพัฒนา และอาสากู้ภัย อยู่ระหว่างเร่งให้การช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร ซึ่งพบว่ายังมีสัญญาณชีพอยู่ 1 คน ส่วนอีกคนที่มีสัญญาณชีพก่อนหน้านี้และเจ้าหน้าที่ได้ให้สายน้ำเกลือเพื่อยื้อชีวิต แต่ล่าสุดได้เสียชีวิตลงแล้ว ส่วนตัวเลขผู้ที่ติดอยูใต้อาคารรวมที่มีสัญญาณชีพมีประมาณ 7 คน ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับสิทธิตามหลักประกันสังคมตามกฎหมาย ส่วนกาชาดประจำจังหวัด จะได้มอบเงินและสิ่งของยังชีพเพื่อบรรเทาทุกข์ต่อไป ขณะที่อาคารข้างเคียง ซึ่งเป็นโครงการเดียวกัน ได้สั่งให้ระงับการก่อสร้างไว้ก่อน และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการเกิดเหตุสลดซ้ำ ขณะที่วิศวกรเจ้าของโครงการยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือตรวจดูความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด คนงานเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ยอดสูญหาย 7 ราย พ.ต.ท.กฤษฎาพร ปานโปร่ง รอง ผกก. สภ.คลองห้า เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ความคืบหน้าล่าสุด การเร่งช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ภายใต้ซากอาคารถล่มที่คลอง 6 โดยทั้งหมดมียอดติดอยู่ทั้งสิ้น 7 ราย เป็นชาวกัมพูชา 1 ราย และคนบุรีรัมย์ 6 คน โดย นายเชษฐา ซึ่งแพทย์กำลังเตรียมจะผ่าตัด ตัดขาเพื่อช่วยชีวิตออกมาได้เสียชีวิตลงแล้ว เนื่องจากไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้ ส่วนอีกรายสามารถได้ยินสัญญาณชีพได้ คือ นายกล้าณรงค์ ซึ่งถามตอบได้ จนท.กู้ภัย กำลังเร่งช่วยเหลือโดยด่วนแล้ว และล่าสุดกำลังทำการประชุม เพื่อหาทางช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ภายใน นายกวิศวะฯ เผย ตึกถล่มเร่งสร้าง ปูนไม่แห้ง - เจ้าของหนีหาย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. เปิดเผยว่า สาเหตุเบื้องต้นที่อาคาร 6 ชั้น ของโครงการ ยูเกสต์ ถล่มทับคนงาน จนทำให้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น วิเคราะห์ได้ว่า อาจเกิดจากปูนที่เทยังไม่แห้งสนิท แต่โครงการเร่งรีบ เพื่อทำการก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งถือว่าไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของการก่อสร้างเลย สันนิษฐานว่า โครงการเร่งรีบเพราะหวังผลทางการตลาด เพื่อให้โครงการเปิดขายโดยเร็ว ขั้นตอนการก่อสร้างจึงถูกเร่งดังที่เห็น จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น และที่น่าเสียใจ คือ ทางเจ้าของโครงการ วิศวกรคุมงาน ผู้รับเหมา ต่างหนีหายไปหมดแล้ว โดยไม่ได้มาให้ข้อมูลต่อ จนท. หรือ สมาคมเลย ซึ่งพรุ่งนี้ (13 ส.ค.) เวลา 14.00 น. ทาง วสท. จะทำการแถลงข่าวในเรื่องนี้อีกครั้ง ที่ วสท. นายกสภาทนายฯจี้ตร.ต้องเรียกเจ้าของตึกถล่มสอบ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ กล่าวถึง เหตุคอนโดที่กำลังก่อสร้าง ความสูง 6 ชั้น ย่านคลอง 6 จ.ปทุมธานี ทรุดตัวถล่มทับคนงานระหว่างก่อสร้าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว ว่า เมื่อเกิดเหตุพนักงานสอบสวนในพื้นที่ ต้องเรียกเจ้าของโครงการ ผู้รับเหมาก่อสร้าง วิศวกรควบคุมโครงการ นายช่างคุมงานระหว่างเกิดเหตุ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างมาสอบสวน และการตรวจดูสัญญาก่อสร้าง พิมพ์เขียวก่อสร้าง ใบรับงาน เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้น และผู้ที่มีส่วนกระทำผิดเพื่อดำเนินคดีอาญาตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่ว่าเหตุนั้นจะเกิดจากความประมาท หรือเจตนาก็ตาม เพราะเมื่ออาคารเกิดทรุดตัว ก็ต้องเกิดจากเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง และถ้าการก่อสร้างดำเนินไปแล้วถึง 6 ชั้น ระหว่างนั้นก็ต้องมีการเซ็นรับงานและจ่ายค่างวด ซึ่งทั่วไปการก่อสร้างจะชำระตรวจรับงานตามความคืบหน้าของงาน ดังนั้นการตรวจสอบน่าจะทำได้ไม่ยุ่งยาก ขณะที่ความรับผิดชอบต่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ก็ต้องมีอยู่แล้วจากเจ้าของโครงการ โดยทั่วไปในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ในการทำสัญญาก่อสร้างก็มักจะมีการทำประกันภัยบุคคลที่สามไว้ด้วย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดจากเหตุก่อสร้างได้ เช่น อิฐตกใส่ศีรษะ ที่แม้กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ว่าต้องให้มีการทำประกันภัย แต่โดยทั่วไปโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จะมีไว้ ก็ต้องดูว่าเหตุนี้มีหรือไม่ซึ่งอย่างน้อยจะเป็นการเยียวยาในเบื้องต้น นายเดชอุดม ยังกล่าวอีกว่า ในทางปฏิบัติสภาวิศวกร และสภาสถาปนิก ก็มีมาตราฐานทางวิชาชีพควบคุมอยู่แล้ว ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ ยังต้องรอการสอบสวนข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเกิดจากเหตุใด เกี่ยวข้องความผิดพลาดของวิศวกรควบคุมงานหรือไม่ ------------------------------------------------------------------- จนท.เร่งช่วยเหยื่อตึกคลอง6ถล่มล่าสุดดับ3-ติดใต้ซากอีก6 http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=558092