(9 ส.ค.) ที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการกฎหมาย กอ.รมน. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนหรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในสงครามในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 1.นาย สมศักดิ์ หรือ น้อง พูลสวัสดิ์ อายุ 45 ปี ตามหมายจับศาลอาญารัชดา ที่ 1370 / 2557 ลงวันที่ 8 ส.ค 57 2.นางสาวกริชสุดา หรือ เปิ้ล คุณะแสน นักกิจกรรมเสื้อแดง อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาอาญารัชดา ที่ 1371 / 2557 ลงวันที่ 8 ส.ค.57 3.นางชนัญชยา หรือเมย์ เกตุแก้ว อายุ 46 ปี ตามหมายจับศาลอาญารัชดาที่ 1372 / 2557 ลงวันที่ 8 ส.ค 57 พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก นายพีรพงษ์ หรือธานินทร์ สินธุสนธิชาติ ที่ถูกตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมตามหมายจับคดีพบอาวุธสงครามจำนวนมาก ในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาได้นั้น นายพีรพงษ์ได้ให้การซัดทอดว่าอาวุธปืนที่แจกจ่ายให้บุคคลต่างๆไปก่อเหตุ เป็นปืนที่รับมาจากนางสาวกริชสุดา และนายไม้หนึ่ง สำหรับการที่นายพีรพงษ์รับสารภาพนั้นเป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด ซึ่งตนต้องการให้นายพีรพงษ์รับต่อหน้าสื่อเพื่อเป็นการยืนยัน ว่านางสาวกริชสุดากระทำสิ่งที่ผิด มีพฤติกรรมไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะนางกริชสุดาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆว่าโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายไม่เป็นความจริง ไม่มีทางเป็นไปได้ ขณะที่ นายพีรพงษ์ ที่ถูกนำตัวมาแถลงข่าวระบุว่า ได้ไปรับปืนเอ็ม79 มาจากนายไม้หนึ่ง จากนั้นได้นำไปแจกจ่ายให้ผู้ร่วมขบวนการนำไปก่อเหตุ และได้ไปรับอาวุธปืนเอ็ม16 ที่นางสาวกริชสุดา แต่ยังไม่ได้นำไปก่อเหตุเนื่องจากนำปืนไปลองแล้วปืนเกิดระเบิดขึ้น ทั้งขอยืนยันว่า ไปรับปืนมาจริง ไม่ได้มีผู้ใดบังคับให้สารภาพ ซึ่งจากคำรับสารภาพของนายพีรพงษ์นั้น ทางเจ้าหน้าที่จากนำเสนอต่ออัยการ หากพบว่านางกริชสุดาและนางมนัญชยากบดานอยู่ในประเทศที่เรามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ก็จะประสานไปทางประเทศนั้นๆเพื่อทำการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป ส่วนนายสมศักดิ์ถูกจับกุมได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน