วันนี้(6 ก.ค.57) มีรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความภาพผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นกรณีที่พระสงฆ์ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ชี้ไม่เหมาะสมเพราะเป็นเรื่องทางโลกมากกว่าทางธรรม มีใจความดังนี้ พระกระสันการเมือง หากย้อนรำลึกกลับไป สาเหตุที่ประชาชนออกมาประท้วงกันบนท้องถนน เพราะนักการเมืองโหวตสนับสนุนให้ "ร่างพรบ.นิรโทษกรรม" ผ่านสภา สุเทพเป็นแกนนำ ประกาศชัตดาวน์กรุงเทพฯ ไล่ปิดล้อมสถานที่ราชการ ขัดขวางการเลือกตั้ง ประชาชนต้องการปฏิรูปการเมือง เพื่อก้าวไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ลดอำนาจนักการเมืองที่เอาแต่สรรหาประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง นี่คือเหตุผลที่ผู้คนออกมาประท้วง ต่อต้านระบอบทักษิณ มีคนบาดเจ็บล้มตาย บ้านเมืองลุกเป็นไฟไม่ใช่หรือ? เมื่อเกิดความแตกแยกอย่างหนัก ทหารเข้ามายึดอำนาจ ให้เหตุผลว่าเพื่อสร้างความปรองดอง พาประเทศเดินไปข้างหน้า แล้วเหตุใดยังจะให้พรรคการเมืองส่งตัวแทนเข้าไปมีส่วนร่วมในสภาปฏิรูปแห่งชาติอีก? ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่นักการเมืองจะมามีบทบาท ปล่อยให้ทหารกับประชาชนปฏิรูปเต็มที่ แต่ที่ผมข้องใจคือ หลังๆเห็นพระกระสันการเมือง ทั้งโพสต์เฟสบุ๊ค สวดเรื่องปฏิรูป เทศนาว่าใครเป็นนายกฯ แทนที่จะจำศีล ปฏิบัติธรรม ปลีกวิเวก ดันหมกมุ่นลุ่มหลงกับทางโลก ทำตัวเหมือนนักการเมือง ขึ้นศาล เป็นแกนนำม็อบ ทั้งๆที่ห่มผ้าเหลือง การเมืองเป็นเรื่องกิเลสตัณหา ใครอยากเกลือกกลั้วก็ต้องแปดเปื้อนเป็นของธรรมดา ฆราวาสอย่างผมชินเสียแล้วเรื่องพรรค์นี้ ที่น่าแปลกคือ แม้แต่พระที่ห่มเหลืองมามากว่าสิบพรรษา ยังตัดกิเลสไม่ขาด อีกไม่นานคงห่มผ้าเหลืองเข้าสภาฯ แล้วอวดอุตริอภิปรายเป็นภาษาบาลี