เบอร์ลี่ยุคเกอร์เล็งทุ่มกว่า 16,000 ล้านบาทซื้อกิจการค้าปลีก"เมโทร"ในเวียดนาม หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว ว่า บริษัทเมโทร เอจี ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของเยอรมนี กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา เพื่อขายธุรกิจ cash-and-carry ในเวียดนามให้แก่บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) คิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 16,000 ล้านบาท แหล่งข่าวระบุว่าเบอร์ลี่ฯได้เจรจาติดต่อกับเมโทรเกี่ยวกับการซื้อกิจการ ดังกล่าวตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งนี้ บริษัท เมโทร เอจี ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของยุโรป ได้เปิด ร้าน cash-and-carry แห่งแรกในเวียดนามในปี 2545 และขณะนี้มี ร้านทั้งหมด 19 แห่งในประเทศดังกล่าว โดยมีพนักงานประมาณ 4,000 คน ซึ่งทำยอดขายได้ 516 ล้านยูโร (692 ล้านดอลลาร์) ในปีงบการเงิน 2555/ 2556 ธุรกิจ cash-and-carry ซึ่งจำหน่ายสินค้าแบบค้าส่งให้แก่ลูกค้า อาทิ โรงแรม, ร้านอาหาร และผู้ค้าปลีกอิสระ สามารถทำยอดขายคิดเป็นสัดส่วน ราวครึ่งหนึ่งของยอดขายของเมโทร กรุ๊ป โดยมีร้านกว่า 750 แห่งใน 28 ประเทศในยุโรป และเอเชีย เมโทรยังดำเนินธุรกิจร้านมีเดีย-แซทเทิร์น ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า สำหรับผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของยุโรป รวมทั้งไฮเปอร์มาร์เกตส์ Real และห้าง สรรพสินค้า Kaufhof ในเยอรมนี ขณะที่บริษัทกำลังดำเนินความพยายาม ที่จะปรับปรุงธุรกิจเพื่อให้ความสำคัญกับธุรกิจ cash-and-carry และ เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภค เมื่อเวลา 14.57 น.ตามเวลาไทย หุ้นเมโทรพุ่งขึ้น 2% ขณะที่ดัชนี STOXX Europe 600 สำหรับกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.4% โดยหุ้น เมโทรดิ่งลงอย่างหนักหลังจากที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 เมื่อวัน 31 ก.ค.2557 หุ้นเมโทรทรุดลงเกือบ 26% แล้วในปีนี้ เนื่องจากบริษัทมีการลงทุน ในรัสเซีย และการตัดสินใจเลื่อนการนำธุรกิจ cash-and-carry ใน รัสเซียเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น อันเนื่องจากสถานการณ์ปั่นป่วนในตลาด กรณีวิกฤตการณ์ยูเครน ทั้งนี้ เมโทรต้องการที่จะนำเงิน 1 พันล้านยูโรที่ได้ไปลงทุนในธุรกิจ ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในรัสเซีย และตลาดเกิดใหม่อื่นๆ และเพื่อการชำระหนี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเข้าซื้อธุรกิจค้าปลีกในเวียดนามนั้น เป็นเรื่องที่ตลาดรับทราบข่าวกันดีอยู่แล้ว เพียงแต่รอให้บริษัทเบอร์ลี่ฯออกมาประกาศแผนการลงทุนและรูปแบบการเข้าลงทุนในครั้งนี้ ซึ่งหากบริษัทต้องลงทุนเองทั้งหมดในจำนวนเงินตามที่เป็นข่าว คาดว่าบริษัทเบอร์ลี่ฯอาจจะต้องเพิ่มทุน แต่ถ้าหากเป็นการเข้าร่วมทุนบางส่วน และมูลค่าการลงทุนไม่ถึงระดับ 1 หมื่นล้านบาท ก็คงไม่ต้องเพิ่มทุน อย่างไรก็ตามต้องรอพิจารณาแผนการลงทุนทั้งหมดก่อนจะปรับมูลค่าพื้นฐานหรือประมาณการกำไรของบริษัทเบอร์ลี่ฯ "ตอนนี้คงรอให้บริษัทยืนยันการลงทุนและแผนการเข้าลงทุนว่าจะลงทุนเองทั้งหมดหรือมีพันธมิตรเข้าร่วม และรูปแบบการลงทุนจะทำอย่างไรจะมีการแลกหุ้นหรือไม่ ซึ่งคงติดตามรายละเอียดก่อนทบทวนประมาณการใหม่"นักวิเคราะห์กล่าว บทวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบวุ่า การขยายไปต่างประเทศเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเบอร์ลี่ฯ ยังมุ่งขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเน้นที่ เวียดนาม ลาว กัมพูชา ซึ่งยังมีช่องว่างในการขยายธุรกิจอีกมาก ปัจจุบันบริษัทมียอดขายจากต่างประเทศสัดส่วน 20.9% (ส่วนใหญ่จากเวียดนาม 66.2%) เติบโตก้าวกระโดดจาก 2.7% ในปี 2551 ทั้งนี้ บริษัทเบอร์ลี่ฯ ได้ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 50% ในระยะยาวซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ รุกธุรกิจขายอุปโภคบริโภค ซึ่งร้านสะดวกซื้อ B’s Mart ในเวียดนาม ชะลอขยายสาขา (จากเดิมตั้งเป้าเปิด 100 สาขา/ปี) เพื่อปรับปรุงระบบบริหารจัดการของร้าน และ เน้นขายสินค้าบริโภค / อาหารพร้อมรับประทานมากขึ้น อย่างไรก็ดีจะมีการเปิดร้านขนาดใหญ่ เป็นร้านขายส่ง และ ขายปลีก (ไม่ใช่ไฮเปอร์มาร์เก็ต) 2 สาขา ซึ่งจะใช้เป็นโกดังเก็บสินค้าเพื่อส่งให้ร้าน B’s Mart ด้วย โดยลงทุนไม่เกินสาขาละ 400 ล้านบาท ส่วนการควบรวมกิจการในเวียดนามนั้น กำลังพิจารณาเข้าซื้อกิจการธุรกิจอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ในเวียดนาม เพื่อต่อยอดธุรกิจในเวียดนามที่มีทั้งธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าผ่าน Thai Corp, Thai An และ ธุรกิจค้าปลีก การลงทุนดังกล่าวคาดจะใช้กระแสเงินสด และ การกู้ยืม โดยไม่ต้องเพิ่มทุน เนื่องจากฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.8 เท่า ยังมีช่องว่างในการกู้ยืม ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ทีมเจรจา(ดีล)ซื้อกิจการเมโทร ธุรกิจค้าปลีกประเภทเงินสด (cash&carry) ในประเทศเวียดนาม อยู่ระหว่างการจัดทำแผนธุรกิจให้เรียบร้อย ก่อนจะรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ภายในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ การเตรียมเปิดเผยถึงการซื้อกิจการในเวลากระชั้นชิด ส่วนหนึ่งเพราะป้องกันการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกที่รุนแรง เหมือนในอดีตที่บริษัทเผยข้อมูลดีลธุรกิจออกสู่สาธาณะชน ทำให้การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น ที่สำคัญดีลดังกล่าวมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ จึงต้องใช้เวลาในการดำเนินการ สำหรับเมโทร เวียดนาม เป็นธุรกิจค้าปลีกที่มีสาขาหรือเมโทร เซ็นเตอร์กระจายอยู่ราว 14 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เวียดนามเหนือถึงเวียดนามใต้ เช่น เมืองดานัง โดยมีสินค้าและบริการทั้งอาหารและไม่ใช่อาหาร(ฟู้ดส์ แอนด์ นอนฟู้ดส์) กว่า 2.5 หมื่นรายการ ป้อนกลุ่มลูกค้าทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม ร้านอาหารและภัตตาคาร โดยโซลูชั่นการบริการแก่ลูกค้าอย่างมืออาชีพ ปัจจุบันลูกค้าสามารถสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยที่บริษัทมีหน่วยรถในการขนส่งและกระจายสินค้าถึงกลุ่มเป้าหมาย Tags : เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ • เมโทร • ค้าปลีก • เวียดนาม