บลจ.บัวหลวงทบทวนพอร์ตลงทุน หลังบจ.ประกาศงบไตรมาส 1 จ่อเพิ่มน้ำหนักกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เพราะเข้าใกล้จุดต่ำสุด นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ บลจ.บัวหลวง จะมีการทบทวนพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะเป็นช่วงที่มีการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2557 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ครบทุกบริษัท และจะทำให้เห็นทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม และในแต่ละรายบริษัท ซึ่งหากบริษัทใดยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดี หรือบริษัทใดเข้าใกล้จุดต่ำสุดแล้ว ก็จะหาจังหวะเพิ่มสัดส่วนการลงทุน เช่นหุ้นในกลุ่ม ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น “ แม้ว่าจะมีปัญหาทางการเมือง แต่ตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา ได้มีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะเป็นจังหวะทยอยสะสมซื้อ สอดคล้องกับเม็ดเงินลงทุนที่เข้ามาในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) และกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ดัชนีปรับลดลง” เขากล่าวต่อว่า หุ้นที่กลุ่มที่เข้าซื้อสะสม ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มค้าปลีก โมเดิร์นเทรด โรงพยาบาล และหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง ทำให้ราคาหุ้นปรับลดลงไปมาก เหมาะสำหรับการซื้อสะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ประกอบกับประเมินว่าสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้น่าจะคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น นอกจากนักลงทุนไทยแล้ว ในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีนักลงทุนสถาบันต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นไทยผ่านบลจ.เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะมีปัญหาทางการเมือง เพราะยังเชื่อแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจในประเทศ แต่ไม่อยากลงทุนเองโดยตรง เพราะเชื่อว่าผู้บริหารกองทุนมีความเข้าใจในภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ในประเทศมากกว่า บลจ.บัวหลวง มีความสนใจที่จะออกกองทุนที่มีนโยบายไปลงทุนในต่างประเทศ หรือ เอฟไอเอฟ (FIF) โดยสนใจการลงทุนในประเทศแถบเอเชีย และอาเซียน เพราะมีแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในอัตราสูง จากจำนวนประชากรที่มีจำนวนมาก ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนความต้องการในประเทศ นาย วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า กรอบการลงทุนในตลาดหุ้นใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 1,300-1,450 จุด โดยหากสถานการณ์ทางการเมืองมีความรุนแรงเกิดขึ้นภายใน 2-3 วันนี้ ตลาดอาจจะถูกเทขายลงไปที่ 1,300 จุดได้ ขณะที่หากกลุ่ม กปปส.ยุติการเคลื่อนไหว รวมไปถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.)ชุดปัจจุบันที่เหลืออยู่ยอมลาออกทั้งหมด จะทำให้ตลาดสะท้อนในเชิงบวกและมีโอกาสที่ดัชนีจะขึ้นไปถึง 1,450 จุด สำหรับกลยุทธ์การลงทุน หากดัชนีลงมาอยู่ใกล้ระดับ 1,300 จุด ให้ทยอยเข้าสะสมหุ้นพื้นฐานดีในกลุ่มปิโตรเคมี ธนาคารพาณิชย์ และสื่อสาร ส่วนหากดัชนีขึ้นไปที่ 1,450 จุด ให้ขายทำกำไร ส่วนเป้าหมายดัชนีทั้งปียังคงไว้ที่ 1,500 จุด บนสมมติฐานที่การเมืองจบภายในเดือน ต.ค.นี้ Tags : บลจ.บัวหลวง • ปรับพอร์ต • กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์