'วิชัย'ทิ้งหุ้นอาร์พีซีจี-ตงฮั้ว

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 6 สิงหาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    วิชัย ทองแตง ประกาศถอนการลงทุนในอาร์พีซีจี ยันไม่ได้ถล่มเทขายจนร่วงติดฟลอร์ เผยอาจขายหุ้นตงฮั้วออกด้วย

    นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ เครือโรงพยาบาลพญาไท และเปาโล เมโมเรียล ในฐานะผู้ถือหุ้นบริษัท อาร์พีซีจี (RPC) เปิดเผยว่าได้ตัดสินใจถอนการลงทุนในบริษัท อาร์พีซีจี ที่ถือหุ้นอยู่ 21.7% เพราะมีความเห็นไม่ตรงกับกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม โดยได้ทยอยขายหุ้นออกไปแล้วในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา จนล่าสุดเหลือหุ้นอยู่ประมาณ 100 ล้านหุ้น คิดเป็น 7% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยหากขายออกทั้งหมดโดยรวมแล้วการลงทุนในครั้งนี้อยู่ใกล้เคียงกับต้นทุนที่เข้าไปซื้อ แม้จะไม่ขาดทุน แต่ก็เสียโอกาส เพราะวางแผนการพลิกฟื้นธุรกิจไว้ดีมาก

    “ เกิดข่าวลือว่าผมจะขายหุ้นออกมาตั้งแต่ 3-4 วันที่ผ่านมา จึงต้องการแจ้งให้ตลาดได้รับรู้ การขายหุ้นออกมาในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นผลมาจากกระแสข่าวที่ว่าบริษัทจะแพ้คดีบริษัท ปตท.แต่อย่างใด แต่มีสาเหตุมาจากความคิดเห็นไม่ตรงกันกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่รายเดิม คือ นายสัจจา เจนธรรมนุกูลและครอบครัว”

    เขากล่าวต่อ ได้เข้ามาถือหุ้นในบริษัทอาร์พีซีจีตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยมีแผนจะฟื้นฟูบริษัทให้กลับมามีกำไร จากที่ขาดทุนในปีที่แล้วอยู่ที่ 139 ล้านบาท ตามโมเดลที่วางไว้ได้เพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นรายเดิมในสัดส่วน 1:1 เพื่อนำเงินไปลงทุนซื้อหุ้นบริษัท บริษัท ไทยพับลิคพอร์ต ในสัดส่วน 90% มูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท

    เพราะมองเห็นศักยภาพของธุรกิจท่าเรือและคลังน้ำมัน เพราะรัฐบาลมีนโยบายในการเพิ่มสำรองน้ำมันของประเทศ จึงต้องการคลังเก็บน้ำมันเพิ่ม โดยคลังและท่าเรือของบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต คือว่ามีศักยภาพสูง เพราะตั้งอยู่ในเกาะสีชัง ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึก จึงเล็งเห็นว่าน่าจะช่วยในการพลิกฟื้นธุรกิจได้

    หลังจากเพิ่มทุนรอบแรกไปแล้ว เมื่อเร็วๆ นี้จึงได้หารือเพิ่มเติมว่าจะเพิ่มทุนเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมตามสิทธิ์ หรืออาร์โอ อีกรอบ เพื่อซื้อหุ้นบริษัท ไทยพับลิคพอร์ตอีก 35 % รวมเป็น 65 % ต้องใช้เงินอีกประมาณ 1.05 พันล้านบาท เพื่อให้สามารถนำผลการดำเนินงานมารวมในงบของบริษัทได้ แต่ในการประชุมแบบไม่เป็นทางการครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อวางกำหนดเวลาในการเพิ่มทุน นายสัจจาบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มทุน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีการคัดค้าน

    “เมื่อคุณสัจจาบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มทุน ก็เข้าใจในฐานะเจ้าของกิจการ คงไม่อยากให้มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ลดลงไปมากกว่านี้ แต่ผมก็ได้บอกไปว่า ถ้าอย่างนั้นผมก็คงอยู่ร่วมถือหุ้นต่อไปไม่ได้ เพราะตามสไตล์ผม ต้องชัดเจน และรักษาคำพูด พูดอย่างไรก็ต้องทำอย่างนั้น ตอนนี้ยังแค่เป็นช่วงเริ่มต้น หากลงทุนไปมากกว่านี้แล้วมีความเห็นไม่ตรงกัน จะยิ่งเกิดปัญหา จึงจำเป็นต้องถอยออกมา แยกทางกันด้วยดี ไม่มีข้อพิพาท เพื่อรักษาความเป็นมิตรเอาไว้”

    ยันไม่ได้ทำให้หุ้นร่วงติดฟลอร์

    เขากล่าวต่อว่า สาเหตุที่เลือกขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เพราะในวันที่แจ้งนายสัจจาว่าจะไม่ถือหุ้นต่อ เจ้าตัวก็ไม่ได้แสดงเจตนาขอซื้อหุ้น พร้อมกับรับปากไปว่าจะไม่ขายออกแบบถล่มทลาย อย่างไรก็ตามในวันถัดมาราคาหุ้นบริษัทอาร์พีซีจีก็ปรับลดลงจนมาถึงระดับเพดานต่ำสุด (ฟลอร์) ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้มีเป็นการขายออกของตนเอง เพราะในวันนี้ขายหุ้นออกไปแค่ 6 แสนหุ้น จากปริมาณการซื้อขายทั้งหมด 90 ล้านหุ้น และขายในราคาฟลอร์ แต่มีการขายจำนวนมากในวันถัดมาโดยได้แจ้งข้อมูลการขายหุ้นให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว

    สำหรับดีลการซื้อหุ้นบริษัท ไทยพับลิคพอร์ตของอาร์พีซีจี ก็คงล้มไป แต่เนื่องจากตนได้มีการเจรจาในเรื่องนี้ไว้แล้ว ก็อาจจะเข้าไปซื้อหุ้นแทน หรือหาผู้ที่สนใจเข้าไปซื้อ เพราะได้รับปากกับผู้เกี่ยวข้องไว้แล้วว่าจะเข้าไปซื้อ สำหรับตนคอมมิทเม้นท์ สำคัญที่สุด ต่อให้ไม่มีสัญญา ก็ต้องทำตามที่ตกลงไว้ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้คงจะได้สรุป

    จ่อขายหุ้นตงฮั้วหลังเปลี่ยนแผนธุรกิจ

    เขากล่าวต่อว่า นอกจากบริษัท อาร์พีซีจีแล้ว ยังอยู่ระหว่างขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทตงฮั้ว (TH) ออก เพราะตอนที่เข้ามาได้คุยกันถึงทิศทางบริษัทว่าจะมุ่งทำธุรกิจพลังงานทดแทน ได้เตรียมคอนเนคชั่นไว้หลายที่ แต่ต่อมาทางกลุ่มผู้ถือหุ้นได้เปลี่ยนโมเดลธุรกิจจะมุ่งไปธุรกิจสื่อ ยอมรับว่าโมเดลใหม่ดี แต่ก็ไม่ตรงตามแนวทางที่ตั้งใจไว้ จึงอาจจะขายหุ้นออก

    “บริษัทนี้ผมถือหุ้นน้อย แต่ก็มีพันธมิตรเข้ามาถือด้วยรวมๆ กันแล้วประมาณ 10% ได้แจ้งพันธมิตรไปแล้วว่าอาจจะขายออก ส่วนพันธมิตรจะขายหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เพราะทุกคนมีอิสระในการพิจารณา จากวันที่เข้าไปถือหุ้นปีกว่าๆ ก็ยอมรับว่ามีกำไรแล้ว”

    ยังสนธุรกิจพลังงาน-มีคุยหลายดีล

    เขากล่าวต่อว่า แม้การลงทุนในธุรกิจพลังงานทั้งของบริษัทอาร์พีซีจี และตงฮั้วจะไม่เป็นไปตามแผนธุรกิจที่วางไว้ แต่โดยส่วนตัวก็ยังสนใจในธุรกิจพลังงานอยู่ ซึ่งขณะนี้ก็มีหลายดีลที่อยู่ระหว่างการพูดคุยกัน โดยหลักการเข้าไปลงทุนส่วนตัว ไม่ได้หวังจะเป็นผู้บริหาร แต่ก่อนที่จะลงทุนก็ต้องมีการพูดคุยกันว่าทิศทางของบริษัทนั้นๆ จะไปในทิศทางใด อยากให้เรามีส่วนร่วมอย่างไร และในการเข้าไปลงทุนก็จะพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน

    Tags : วิชัย ทองแตง • RPC • ตงฮั้ว • ขายหุ้น

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้