"บีเอ็มซีแอล"คาดพลิกมีกำไรปี60 หลังค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหนือเพิ่ม700 ล้านบาทต่อปี นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล เปิดเผยว่าบริษัทได้เร่งรัดการส่งมอบขบวนรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหนือ เส้นทางบางใหญ่-บางซื่อ ให้เร็วขึ้นเป็นช่วงปลายปี 2558 เพื่อให้การเปิดเดินรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เร็วขึ้นจากเดือนธ.ค. 2559 เป็นปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ปี 2559 โดยจะเริ่มทยอยรับมอบขบวนรถไฟฟ้า 21 ขบวน มูลค่าขบวนละ 200 ล้านบาท รวม 4,200 ล้านบาท ในช่วงปลายปี 2558 จากนั้นจะใช้เวลาทดสอบระบบ 9 เดือน ก่อนเปิดบริการเชิงพาณิชย์ โดยเป็นการทดสอบระบบแยก 2-3 เดือน ทดสอบระบบรวม 3 เดือน และทดสอบระบบเสมือนจริงอีก 3 เดือน หากรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหนือเปิดดำเนินการ การไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสาร 2 แสนคนต่อวัน ระยะแรกจะมีผู้โดยสาร 7-8 คนเที่ยวต่อวัน ส่งผลให้ บีเอ็มซีแอล มีรายได้จากค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาทต่อวัน หรือคิดเป็น 700 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันที่มีรายได้ 6 ล้านบาทต่อวัน เมื่อรวมกับรายได้เดิมจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านบาทต่อวัน หรือเติบโต 30% จากปัจจุบัน ทำให้มีกำไรทันทีในเดือนที่เปิดดำเนินการ แต่ในภาพรวมผลประกอบการปี 2559 จะยังไม่มีกำไร ปี60รับค่าจ้างเดินรถ1.7พันล้านต่อปี จากนั้นเมื่อเปิดเดินรถเต็มปีในปี 2560 จะได้รับค่าจ้างเดินรถ 1,700 ล้านบาทต่อปี ทำให้มีรายได้จากค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 700 ล้านบาทต่อปี เพราะผู้โดยสารจากชานเมืองสายสีม่วงเหนือ จากชานเมืองจะใช้รถไฟฟ้าสายมีน้ำเงินต่อเนื่อง ขณะที่รายได้จากค่าโฆษณาจะเติบโต 20-30% จากปกติเติบโต 10-15% ต่อปี ปกติรายได้เติบโตเฉลี่ย 8-12% ต่อปี เป็นอัตราที่สูงกว่าการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 4-6% ต่อปี จากการปรับเพิ่มราคาค่าโดยสาร และผู้โดยสารใช้บริการระยะทางต่อคนมากขึ้น หากเติบโตตามอัตราปกติ 10% ต่อปี จะทำให้มีรายได้เพิ่มเป็น 7 ล้านบาทภายใน 2 ปีข้างหน้า ไตรมาส 2 จำนวนผู้โดยสารเติบโต 4-5% เมื่อเทียบกับปี 2556 เฉลี่ย 2.3 แสนคนต่อวัน แต่ขณะที่รายได้เติบโต 10% โดยตั้งเป้าว่าปีนี้จะมีรายได้เติบโต 10% คาดว่ามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (อีบิทด้า) เติบโต 10% ลงทุนส่วนต่อขยาย'สายสีน้ำเงิน' ทั้งนี้ บีเอ็มซีแอลได้รับสัมปทานจาก รฟม. ให้เป็นผู้ลงทุนจัดหาระบบรถไฟฟ้า ให้บริการการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษารถไฟฟ้าสายสีม่วงเหนือ ซึ่งได้มอบหมายให้กลุ่มกิจการการค้าร่วม มารุเบนิ-โตชิบา เป็นผู้ดำเนินงานระบบไฟฟ้า และให้บริษัท เจแปน ทรานส์ปอร์ต เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ผลิตขบวนรถ ส่วนโครงการไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนั้น ได้แจ้งความจำนงพร้อมจะลงทุนในโครงการต่อจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่ปัจจุบันบริษัทดำเนินการอยู่ โดยพร้อมจะเปิดเจรจากับ รฟม. ให้บีเอ็มซีแอลลงทุนก่อนแล้ว รฟม. มาชำระเงินที่หลัง ซึ่งอยู่กับการตัดสินใจของผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะเปิดเจรจากับบีเอ็มซีแอล หรือจะเปิดประมูลเป็นการทั่วไป โดยสามารถทยอยเปิดให้บริการเป็นส่วนๆ ได้ตั้งแต่ปี 2560 เร็วกว่ากำหนดในปี 2561-2562 อีกทั้งทำให้การเดินทางของประชาชนสะดวกขึ้น เพราะไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟฟ้า เคาะทีโออาร์สายสีเขียวเหนือ นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่างานโยธาของรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหนือคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% โดยสัญญาที่ 1 มีการก่อสร้างเสร็จแล้วเหลือเพียงการตรวจรับงาน สัญญาที่ 2 และ 3 ใกล้เสร็จแล้ว ส่วนสัญญาที่ 6 เป็นระบบราง ที่ยังมีเวลาดำเนินงานอยู่ หลังจากนี้ รฟม. จะทำงานร่วมกับบีเอ็มซีแอลเพื่อให้การเดินรถเร็วกว่ากำหนดจากปลายปี 2559 เป็นช่วงกลางปี ทั้งนี้ ในวันที่ 19 ส.ค.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. เพื่อแก้ไขเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่มีปัญหาล่าช้า ซึ่งหากบอร์ดเห็นชอบจะสามารถเปิดรับซองประมูลทั้ง 4 สัญญา โดยคาดว่าจะได้ผู้รับเหมาและมีการลงนามในสัญญาช่วงสิ้นปีนี้ แต่หากราคาเกินกรอบวงเงินที่ตั้งไว้ 29,000 ล้านบาท ก็ต้องให้คณะรัฐมนตรี อนุมัติก่อน ราคาหุ้น BMCL ปิดตลาดวานนี้ (4 ส.ค.) เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 3.14% อยู่ที่ 1.64 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,913.29 บาท Tags : นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ • บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ • บีเอ็มซีแอล • รถไฟฟ้าสายสีม่วง • รฟม.