ช่วงนี้ตลาดรถยนต์โดยรวมถดถอยค่อนข้างแรง แต่ว่าตลาดระดับบนดูเหมือนจะคึกคักไม่น้อย ทั้งด้านยอดจำหน่ายที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ยอดขายเพิ่มขึ้นสวนทางตลาดในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงทีเดียว จริงๆ แล้วตลาดรถหรูบ้านเรา คึกคักมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มีรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นเข้าสู่ตลาดกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งเมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู วอลโว่ หรือการเข้ามาของ แอสตัน มาร์ติน ที่ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน ล่าสุด มาร์เซอร์ราติ เดินหน้ารุกตลาดอย่างจริงจัง ส่งกิบลี (Ghibli) ลงชิงชัยในตลาด กิบลีเป็นรถแบบสปอร์ตซีดาน 4 ประตู ซึ่งการที่มาร์เซอร์ราติผลิตรุ่นนี้ออกมาถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของค่ายรถจากอิตาลียี่ห้อนี้ คือการมีรถ 4 ประตูซีดาน ทำตลาด 2 รุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปี ต่อเนื่องมาจากควอตโตรปอร์เต้ (Quattroporte) นางสาวพรศริน เมธีวัชรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มไพร์ มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด ผู้แทนจำหน่าย กล่าวว่า การเข้ามาของ กิบลี จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานการตลาดได้กว้างมากขึ้น หรือที่ภาษาตลาดเรียกว่า ตลาดแมส (mass) แต่ว่าแมสของมาร์เซอร์ราติ นั้นมีราคา 6.9 ล้านบาท และ 7.9 ล้านบาท ในรุ่นกิบลี เอส ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหากดูโครงสร้างราคาของมาร์เซอร์ราติในปัจจุบัน ต่ำสุดคือ 11.5 ล้านบาท ในรุ่น ควอตโตรปอร์เต้ เอส ไปจนถึง แกรน คาบริโอ กับค่าตัว 17.5 ล้านบาท "กิบลีจะเป็นรถที่เราทำการตลาดแบบแมสมากขึ้นเพื่อให้ถึงมือลูกค้าที่สัมผัสได้ เรามั่นใจว่าจะทำตลาดได้ดีเหมือนกับที่ทำได้ดีในทั่วโลก" ทั้งนี้มาร์เซอร์ราตินั้นคาดหวังว่า กิบลี จะสามารถสอดแทรกเข้าไปยังตลาดรถระดับกลางที่ปัจจุบันครองตลาดโดยรถจากญี่ปุ่นและเยอรมนีเป็นหลัก โดยเชื่อว่าบุคลิกของความเป็นอิตาเลียนจะได้รับการตอบรับจากลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่คุ้นเคยมากนัก ก็คือ ตลาดแมสนั่นเอง กิบลี และ กิบลี เอส ใช้เครื่องยนต์ ทวิน-เทอร์โบ 3.0 ลิตร วี 6 แต่กิบลี เอส จะให้กำลังมากกว่า อยู่ที่ 410 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 285 กม./ชม. ส่วน กิบลี ให้กำลังสูงสุด 330 แรงม้า 0-100 กม./ชม. 5.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 263 กม./ชม. ทั้ง 2 รุ่น ใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ของแซดเอฟ Tags : รายงาน • มาร์เซอร์ราติ • เยอรมัน • ญี่ปุ่น • กิบลี