เลขาฯ กกต. เผยคืบหน้าการสรรหา สปช. ตาม คสช.มอบหมาย ทั้ง 11 คณะ เตรียมเริ่มกระบวนการสรรหาแล้ว เริ่ม 13 ส.ค. นี้ เตรียมตั้ง คกก.สรรหา ในกรอบ 50 วัน นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ความคืบหน้าขั้นตอนการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ตามคำสั่งของ คสช. ทั้ง 11 คณะ ที่มอบหมายให้ กกต.เป็นฝ่ายเลขานั้น ตามขั้นตอนผู้ที่จะเข้ามาเป็นสมาชิก สปช. นั้นไม่สามารถจะมาสมัครโดยตรงกับ กกต.ได้ แต่จะต้องมีหน่วยงาน องค์กร นิติบุคคล ที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ประกาศ คสช.รับรอง เสนอชื่อมาให้ กกต. หน่วยงานละไม่เกิน 2 คน ที่มีคุณสมบัติไม่ขัดกับกฎหมาย โดยเสนอได้ไม่เกินด้านละ 50 คน และจากนั้นจะให้ คสช. เลือกให้ เหลือ 5 คน ส่วนต่างจังหวัด และกทม. ก็เช่นกัน จะสรรหาเหลือจังหวัดละ 5 คน โดยเสนอชื่อจากองค์กรนิติบุคคลเช่นกัน โดยสุดท้าย คสช.จะเลือกทั้งหมด ไม่เกิน 250 คน เข้ามาเป็น สปช. สำหรับคุณสมบัติสมาชิก สปช.นั้น จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี และไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ซึ่งถือว่าเปิดกว้างมากในการเสนอชื่อ เพื่อมาปฏิรูปการเมืองไทย และคาดว่าภายในวันที่ 13 ส.ค. นี้ กรรมการสรรหา โดย คสช. จะแล้วเสร็จ จากนั้น กกต.จะออกประกาศในการสรรหาต่อไป นายภุชงค์ ยังกล่าวว่า ภายหลังมีการออก พ.ร.ฎ.สรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แล้วนั้น ขณะนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้ กกต. เป็นผู้สรรหาทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการสรรหาด้านต่าง ๆ ทั้ง 11 คณะ และคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด เพื่อนำเสนอต่อ คสช. โดย กกต. จะทำหน้าที่เป็นเลขานุการ ในคณะกรรมการสรรหาทุกคณะ ทั้งนี้ การสรรหาดังกล่าว จะให้องค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร เป็นผู้เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา เพื่อส่งให้ คสช. พิจารณาคัดเลือกเหลือไม่เกิน 250 คน ทางด้านขั้นตอนนั้น ในวันที่ 13 ส.ค. 57 จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา และ กกต. จะเป็นผู้ออกประกาศการสรรหาต่อไป ทั้งนี้ จะเริ่มให้องค์กรเสนอชื่อบุคคล วันที่ 14 ส.ค. - 2 ก.ย. 57 จากนั้น กกต. จะใช้เวลาตรวจสอบในวันที่ 3 - 12 ก.ย. 57 และส่งรายชื่อกลับไปคณะกรรมการสรรหา โดยต้องคัดให้เหลือคณะละ 50 คน ภายในวันที่ 13 - 22 ก.ย. และท้ายสุด กกต. จะนำเสนอ คสช. เพื่อพิจารณารายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ ในวันที่ 23 ก.ย. - 2 ต.ค. 57 โดยกระบวนการดังกล่าวนี้ จะมีกรอบเวลาประมาณ 50 วัน