บล.กสิกรไทยเผยมาร์จินโลนเริ่มขยับขึ้น ล่าสุดเพิ่มแตะ 2 พันลบ.เท่ากับช่วงที่ดัชนีหุ้นแตะ1,600จุดในปีก่อน นายธิติ ตันติกุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การกู้เงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จินโลน)ในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปัจจุบันการกู้เงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของบล.กสิกรอยู่ในระดับ เดียวกับช่วงตลาดหุ้นปรับขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ 1,600 จุดในปีก่อน "ตอนนี้การกู้เงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นชัดเจน โดยตอนนี้อยู่ที่ระดับ 2,000 ล้านบาท เท่ากับช่วงที่ตลาดหุ้นทำนิวไฮในปีก่อน สะท้อนภาพของการฟื้นตัวของตลาด ซึ่งการปล่อยกู้เพื่อซื้อหลักทรัพย์ในระดับดังกล่าวเรามองว่ามีความเหมาะสมอยู่แล้ว" ทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์การฟื้นตัวจากเงินที่ไหลเข้าจากมาตรการคิวอี เป็นทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และกลับมาทำการซื้อขายหุ้นอีกครั้ง โดยเห็นได้จากบัญชีที่เคลื่อนไหวเป็นประจำ ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 40 % จากช่วงตลาดหุ้นซบเซาจะอยู่ที่ 30 % โดยภาพระยะต่อไปหากตลาดหุ้นยังมีทิศทางที่ดีอยู่เช่นนี้จะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมบริษัทหลักทรัพย์ให้ฟื้นตัวได้ นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นในช่วง 4 เดือนแรกปรับตัวลดลงต่อเนื่อง การฟื้นตัวพึ่งเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังทำให้เกิดความคาดหวังว่า ถ้าหากไม่มีปัจจัยพิเศษมาทำให้สะดุดก็จะสร้างโมเมนตัมเชิงบวกได้ ด้านส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ของบริษัทนั้น เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น กลับมาอยู่ระดับ 12 % จากก่อนหน้านี้ที่ตลาดซบเซามาร์เก็ตแชร์ของเราลดลงไปที่ 11 % สาเหตุจากบริษัทไม่อยากจะเชียร์ให้คนเข้าซื้อหลักทรัพย์มากนัก แต่พอตลาดฟื้นมาร์เก็ตแชร์ก็ฟื้นตามไปด้วย ส่วนการแข่งขันด้านค่าคอมมิชชั่นเรามองว่ายังอยู่ในระดับที่เป็นเหตุเป็นผล และไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งในเรื่องการแข่งขันค่าคอมมิชชั่นก็มีทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ก็ดูแลในเรื่องนี้อยู่ โดยอัตราค่าธรรมเนียมการซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทยังอยู่ในระดับเดียวกับอุตสาหกรรมส่วนปริมาณการซื้อขายในครึ่งปีหลังมองว่าจะฟื้นตัวขึ้นจากครึ่งปีแรกที่เฉลี่ย 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน ตอนนี้อยู่ในระดับ 4-5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามแม้รายได้จากค่าคอมมิชชั่นจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่รายได้ด้านอื่นกลับเพิ่มขึ้น ทั้งรายได้ค่าดอกเบี้ยเพื่อซื้อหลักทรัพย์และรายได้การค้าอนุพันธ์ ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจ ปัจจุบันเรายื่นไฟลิ่งไปประมาณ 3 ตัว ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการเตรียมตัวอีก 1-2 ตัวในการยื่นไฟลิ่งในปีนี้ และอยู่ในกระบวนการเตรียมยื่นไฟลลิ่งในปีหน้าอีก 3-5 ตัว แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะมีผลการดำเนินงานเท่ากับปีที่แล้ว เพราะถือว่าเป็นปีที่มีผลดำเนินงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นไทย แต่ก็ยังพยายามอยู่ยังมีความหวังกับ 5 เดือนเศษ Tags : ธิติ ตันติกุลานันท์ • บล.กสิกรไทย • ตลาดหุ้น • มาร์จิน