เฟดส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย'ยาว'

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 1 สิงหาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เฟดส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย'ยาว' ต้องจับตาทยอยขึ้นดอกเบี้ย

    คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี) ออกแถลงการณ์หลังการประชุมในวันที่ 29-30 ก.ค. โดยปรับลดมาตรการคิวอีลงตามคาด และส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยออกไปอีกระยะหลังยุติคิวอี มีรายละเอียดดังนี้

    ข้อมูลที่ได้รับมานับตั้งแต่เอฟโอเอ็มซีจัดการประชุมในเดือนมิ.ย. บ่งชี้ว่าการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ขณะที่สถานการณ์ในตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น โดยที่อัตราการว่างงานลดลงต่อไป

    ดัชนีบางตัวในตลาดแรงงานบ่งชี้ว่า ทรัพยากรแรงงานยังคงได้รับการใช้งานต่ำเกินไปเป็นอย่างมาก ขณะที่ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยในภาคครัวเรือนดูเหมือนจะปรับตัวขึ้นปานกลาง และการลงทุนทางธุรกิจในสินทรัพย์คงที่เพิ่มขึ้น ส่วนการฟื้นตัวในภาคที่อยู่อาศัยยังคงดำเนินไปอย่างเชื่องช้าและนโยบายการคลังกำลังจำกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจ ถึงแม้ระดับการจำกัดนี้กำลังลดน้อยลง ส่วนอัตราเงินเฟ้อได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายระยะยาวของเอฟโอเอ็มซีมากขึ้นเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา และการคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อใน ระยะยาวยังคงอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ

    เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่ได้รับมอบตามกฎหมายนั้น เอโอเอ็มซีมีความต้องการที่จะส่งเสริมภาวะการจ้างงานสูงสุด และเสถียรภาพด้านราคา โดย เอฟโอเอ็มซี คาดการณ์ว่า การผ่อนคลายนโยบายในระดับที่เหมาะสม จะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราปานกลาง ในขณะที่สัญญาณบ่งชี้ในตลาดแรงงานและภาวะเงินเฟ้อปรับตัวเข้าใกล้ระดับที่ เอฟโอเอ็มซี มองว่าสอดคล้องกับเป้าหมายทั้งสองประการดังกล่าว

    ทั้งนี้ เอฟโอเอ็มซี พิจารณาว่าความเสี่ยงที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดแรงงานอยู่ในภาวะที่เกือบสมดุลในขณะนี้ และลงความเห็นว่า แนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 2 % อย่างต่อเนื่อง ได้ปรับลดลงไปบ้างแล้ว

    ขณะนี้ เอฟโอเอ็มซี มองว่าเศรษฐกิจในวงกว้างมีความแข็งแกร่งด้านพื้นฐานในระดับที่มากพอที่จะสนับสนุนให้สถานการณ์ในตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในการเข้าใกล้ภาวะการจ้างงานเต็มที่ ขณะที่สถานการณ์ในตลาดแรงงานมีแนวโน้มดีขึ้นนับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์รอบปัจจุบัน เอฟโอเอ็มซี จึงตัดสินใจเดินหน้าปรับลดอัตราการเข้าซื้อสินทรัพย์ลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป

    เอฟโอเอ็มซี จะปรับเพิ่มปริมาณการถือครองหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ (agency) ในระดับ 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ทุกเดือนแทนที่จะเป็น 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะปรับเพิ่มปริมาณการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาวในระดับ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ทุกเดือนแทนที่จะเป็น 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ และ เอฟโอเอ็มซี จะดำเนินนโยบายเดิมต่อไปในการนำเงินต้นที่ได้รับจากตราสารหนี้ของ agency และหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองของ agency มาลงทุนใหม่ในหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองของ agency และจะต่ออายุพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ครบกำหนดไถ่ถอนในการประมูล

    การที่เอฟโอเอ็มซีถือครองหลักทรัพย์ระยะยาวจำนวนมาก และยังคงเพิ่มปริมาณการถือครองต่อไป น่าจะส่งแรงกดดันในช่วงขาลงต่ออัตราดอกเบี้ยระยะยาว, สนับสนุนตลาดจำนอง และจะช่วยให้สถานการณ์ทางการเงินในวงกว้างอยู่ในภาวะผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น และสิ่งนี้น่าจะเป็นการส่งเสริมให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และช่วยรับประกันว่าอัตราเงินเฟ้อในอนาคต จะอยู่ในระดับที่สอดคล้องที่สุดต่อภารกิจทั้งสองประการของเฟด

    เอฟโอเอ็มซี จะจับตาข้อมูลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเงินอย่างใกล้ชิดในช่วงหลายเดือนข้างหน้า และ เอฟโอเอ็มซี จะยังคงเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองของ agency ต่อไป และจะใช้เครื่องมืออื่นๆ

    ด้านนโยบายตามความเหมาะสม จนกว่าแนวโน้มของตลาดแรงงานจะปรับตัวดีขึ้นเป็นอย่างมากในบริบทของเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งถ้าหากข้อมูลส่วนใหญ่ที่ออกมาในอนาคตสนับสนุนการคาดการณ์

    ของเอฟโอเอ็มซี ที่ว่า สถานการณ์ในตลาดแรงงานจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวเข้าใกล้ระดับเป้าหมายในระยะยาว

    เอฟโอเอ็มซี ก็มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราการเข้าซื้อสินทรัพย์ลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในการประชุมครั้งต่อๆไป อย่างไรก็ดี การเข้าซื้อสินทรัพย์นี้ไม่ได้มีการกำหนดแนวทางไว้ล่วงหน้า และการตัดสินใจของเอฟโอเอ็มซีเกี่ยวกับอัตราการเข้าซื้อจะยังคงขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ของ เอฟโอเอ็มซี ที่มีต่อแนวโน้มตลาดแรงงานและภาวะเงินเฟ้อ รวมทั้งการประเมินแนวโน้มประสิทธิภาพและต้นทุนของการเข้าซื้อดังกล่าว

    เพื่อเป็นการสนับสนุนความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องที่จะนำไปสู่ภาวะการจ้างงานสูงสุดและเสถียรภาพด้านราคา เอฟโอเอ็มซี จึงได้ยืนยันต่อความเห็นของ เอฟโอเอ็มซี ที่ว่า นโยบายการเงินที่มีจุดยืนแบบ

    ผ่อนคลายอย่างมาก จะยังคงเป็นสิ่งที่เหมาะสมต่อไป และในการตัดสินว่า เอฟโอเอ็มซี จะตรึงกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้อยู่ในระดับปัจจุบันที่ 0-0.25% ต่อไปเป็นเวลานานเพียงใดนั้นเอฟโอเอ็มซี จะพิจารณาความคืบหน้าทั้งที่เกิดขึ้นจริง และที่คาดการณ์ในการเข้าใกล้เป้าหมายการจ้างงานสูงสุดและอัตราเงินเฟ้อที่ 2 %

    โดยการประเมินนี้จะพิจารณาจากข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงมาตรวัดสำหรับสถานการณ์ในตลาดแรงงาน, สัญญาณบ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงทางการเงิน ซึ่งเมื่อได้มีการประเมินปัจจัยเหล่านี้ เอฟโอเอ็มซี จึงยังคงคาดการณ์ต่อไปว่า มีแนวโน้มว่าสิ่งที่จะมีความเหมาะสมคือการตรึงกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับปัจจุบันต่อไปเป็นเวลานานระยะหนึ่ง หลังจากโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์สิ้นสุดลง โดยเฉพาะถ้าหากตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่เอฟโอเอ็มซี กำหนดไว้ที่ 2 % และตราบใดที่การคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อในระยะยาวยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมเป็นอย่างดี

    เมื่อใดก็ตามที่ เอฟโอเอ็มซี ตัดสินใจเริ่มต้นยกเลิกนโยบายแบบผ่อนคลายทาง เอฟโอเอ็มซี ก็จะใช้วิธีการที่มีความสมดุลและสอดคล้องกับเป้าหมายในระยะยาวในการส่งเสริมภาวะการจ้างงานสูงสุด และทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2 % โดยปัจจุบันนี้ เอฟโอเอ็มซี คาดการณ์ว่า ถึงแม้การจ้างงานและภาวะเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับที่สอดคล้องกับเป้าหมาย

    แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็อาจจะสนับสนุนให้มีการตรึงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นเวลาระยะหนึ่งไว้ในระดับที่ต่ำกว่าที่เอฟโอเอ็มซี มองว่าเป็นระดับปกติในระยะยาว

    ..................

    จับตาเฟดทยอยขึ้นดอกเบี้ย

    นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า การลดขนาดคิวอีในการประชุมของเฟดรอบนี้ ยังคงเป็นไปตามที่ตลาดเงินได้คาดการณ์เอาไว้ และเชื่อว่าเฟดจะทยอยลดมาตรการดังกล่าวลงต่อเนื่องจนหมดในการประชุมเดือนต.ค.นี้ หลังจากนั้นคงต้องดูว่า เฟดจะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเมื่อไร

    ถ้าพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งถ้าตัวเลขยังคงเป็นไปในลักษณะนี้ต่อเนื่องอีก 3-4 เดือนข้างหน้า เชื่อว่าตลาดการเงินคงเริ่มประเมินทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายใหม่ โดยอาจจะเห็นเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดเงินได้คาดการณ์ไว้ก็ได้

    "ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังออกมาดีต่อเนื่อง นักลงทุนก็คงเริ่มมาดูใหม่แล้วว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดกันไว้ก็ได้ จากเดิมที่ตลาดเงินคาดการณ์กันว่า เฟดน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในกลางปีหน้า" นายเชาว์กล่าว

    ในกรณีที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาด ก็อาจมีผลต่อทิศทางของเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ผันผวนมากขึ้นก็เป็นได้ โดยในส่วนของประเทศไทยที่จะกระทบ คงกระทบเฉพาะสภาพคล่องในตลาดการเงินเท่านั้น เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อภาคเศรษฐกิจจริง

    "สภาพคล่องที่กระทบ ก็คงกระทบแค่ในตลาดรองไม่ใช่ตลาดแรกเหมือนตอนปี 2540 เพราะรอบนี้เราไม่ได้ใช้เงินต่างประเทศ หรือเอาเงินต่างประเทศมาใช้ปล่อยสินเชื่อ ซึ่งรอบนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น สินเชื่อที่เราปล่อยกันในตอนนี้มาจากเงินออมในประเทศ ดังนั้นผลกระทบรอบนี้จึงน่าจะกระทบแค่ตลาดเงิน ไม่น่าจะมีผลต่อภาคเศรษฐกิจจริง" นายเชาว์กล่าว


    Tags : เอฟโอเอ็มซี • เฟด • ธนาคารกลางสหรัฐ • ตลาดแรงงาน • ดอกเบี้ย • ผ่อนคลาย

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้