โฆษกพรรคเพื่อไทย ปัด ทักษิณ ซื้อ ส.ว. ระบุ เพื่อไทย ไม่เห็นด้วยแถลงการณ์วุฒิสภา ขณะพรุ่งนี้ 10.00 น. ยื่นคลิปดีเอสไอ เชื่อ 'สุเทพ' เคลื่อนไหวใหญ่ไม่สำเร็จ และ 27 พ.ค. จะไม่มอบตัว กังวล ตัดน้ำ-ไฟ สถานที่ราชการ ศอ.รส. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ใช้เงินซื้อสมาชิกวุฒิสภา ตามที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวหาแต่อย่างใด รวมทั้ง ไม่ได้มีสมาชิกวุฒิสภา เดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมองว่า เรื่องนี้เป็นการใส่ร้ายเพื่อหวังผลทางการเมือง และก้าวไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะเดียวกัน นายพร้อมพงศ์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยต่อแถลงการณ์ 3 ข้อของวุฒิสภา โดยมีเนื้อหาจะให้คณะรัฐมนตรีรักษาการลาออก ที่ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา ได้แถลงภายหลังหารือฝ่ายต่าง ๆ เพราะเป็นการประชุมที่ขัดต่อกฎหมาย และมองว่า ไม่ใช่มติของสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมด ทั้งนี้ กรณีที่มีการเผยแพร่คลิป นายเสรี วงษ์มณฑา แกนนำ กปปส. ปราศรัยในต่างประเทศ ว่า นายสุรชัย มีความเกี่ยวข้องกับ กปปส. และมีการตกลงกับ นายสุเทพ นั้น แสดงให้เห็นว่า นายสุรชัย ไม่มีความเป็นกลาง จึงขอเรียกร้องให้ นายสุรชัย ลาออกจากตำแหน่ง และในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. จะยื่นคลิปนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อเป็นหลักฐานเพิ่อเติมว่า นายสุรชัย น่าจะมีส่วนร่วมในข้อหากบฏกับ นายสุเทพ พร้อมพงศ์ เชื่อ สุเทพ เคลื่อนไหวใหญ่ไม่สำเร็จ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า การที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 19-26 พ.ค. นี้ โดยจะมีการไล่ล่ารัฐมนตรีรักษาการ เพื่อให้ลาออกจากตำแหน่งนั้น เป็นการปล้นอำนาจประชาชน และเป็นการกระทำที่ไม่กลัวกฎหมาย ซึ่งหนักใจว่า จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เด็กและประชาชน ทั้งนี้ เชื่อว่า นายสุเทพ จะดำเนินการไม่สำเร็จในช่วงเวลาดังกล่าว และในวันที่ 27 พ.ค. นี้ นายสุเทพ ก็คงไม่มอบตัวหรือยุติการชุมนุม จึงขอเรียกร้องให้ นายสุเทพ ยุติการชุมนุม เพราะขณะนี้ประเทศได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และยังเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม ส่วนการประชุมระหว่าง นายสุเทพ กับตัวแทนสมาพันธ์แรงงานต่าง ๆ นั้น มีความกังวลว่า อาจจะมีการตัดน้ำตัดไฟสถานที่ราชการที่มีรัฐมนตรีทำงาน หรือ ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน จึงขอเรียกร้องให้ชุมนุมภายใต้กรอบของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม มองว่าความเคลื่อนไหวเรื่องการปฏิรูปประเทศของ นายสุเทพ ไม่สูญเปล่า และมีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้ง แต่หากไม่ยุติการชุมนุม นายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ จะถูกประชาชนลงโทษในการเลือกตั้งครั้งต่อไป