คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คาด สรุปสำนวนคดีข้าวแบบจีทูจี ภายใน 3 เดือน ชี้หากพบเจอข้าวเสียหาย เสื่อมคุณภาพ ต้องเอาผิดคนดูแลโกดังข้าว นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสต๊อกข้าวในโกดังกลางและโรงสีทั่วประเทศร่วมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ป.ป.ช. เน้นตรวจสอบโกดังกลางและโรงสีที่พบข้อมูลว่าปริมาณข้าวในสต๊อกสูญหายและข้าวเสื่อมคุณภาพ และที่ผ่านมาได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กับโกดังที่มีข้าวหายไปบ้างบางส่วน ขณะที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณข้าวของ คสช. อยู่ระหว่างรวบรวมตัวเลขการตรวจสอบสต๊อกข้าวทั้งหมดและใกล้ปิดตัวเลขดังกล่าวได้แล้ว ส่วนความคืบหน้าการไต่สวนคดีการทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี หรือ รัฐต่อรัฐ กับรัฐบาลจีน ในส่วนของ นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีความคืบหน้าเช่นกัน โดยอยู่ระหว่างการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนับสนุน ซึ่งคาดว่าภายใน 2-3 เดือนนี้ จะสามารถสรุปสำนวนได้ นายวิทยา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันการตรวจสอบสต๊อกข้าว หากพบว่ามีข้าวเสื่อมสภาพ และข้าวหายจำนวนมาก ก็ต้องเอาผิดผู้ที่รับผิดชอบดูแลโกดังข้าว เช่น ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.), ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ซึ่งกรณีดังกล่าวจะเป็นคนละส่วนกับคดีของ นายบุญทรง