วันที่ 25 กรกฎาคม ช่วงเช้าที่ผ่านมากลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ประมาณ 300คน รวมตัวกันชุมนุมปิดถนนสนามบินน้ำ หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จังหวัดนนทบุรี ภายหลังจากยี่ปั้วขยับราคาขายสลากกินแบ่งจาก 73 บาทเป็น 83 บาท โดยในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารได้เข้าเจรจาระหว่างผู้ค้ารายย่อยกับผู้ค้าปลีก หรือ ยี่ปั้วแต่ยังตกลงกันไม่ได้โดยในเวลาต่อมา กลุ่มผู้ค้ายอมเปิดการจราจจร 1 ช่องทาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารนำโดย พันเอกวรวุฒิ วุฒิศิริ ได้เข้าเจรจาหาทางออกร่วมกัน ขณะที่การจราจรบริเวณสนามบินน้ำ และเส้นทางบริเวณใกล้เคียงติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนและปริมาณรถมาก จนกระทั่งเวลา 8.40 น. ภายหลังจากการเจรจาระหว่างยี่ปั้ว กับ ผู้ค้ารายย่อย ได้ข้อสรุปคือ ให้ผู้ค้าปลีกขายสลากกินแบ่งแบบก้อนและสลากแบบเล่มในราคาใบละ 80 บาท ส่วนสลากกินแบ่งแบบชุดขายในราคาตามกลไกตลาด ซึ่งสามารถเกิน 80 บาทได้ ส่วนผู้ค้ารายย่อยสามารถนำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขายในราคาที่สูงกว่าได้ แต่ต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสม ด้านพันเอกวรวุฒิ วุฒิศิริ ระบุว่า จากการเจรจากับตัวแทนผู้ค้าทั้งรายย่อยและผู้ค้าปลีก เป็นไปด้วยดี และต่อจากนี้จะเข้าตรวจตราการค้าในพื้นที่ศูนย์การค้าสลากไทยให้ขายในราคาที่กำหนด ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มอบนโยบายไว้ ขณะเดียวกัน นางสาวกัลยารัตน์ ใคร่ครวญ ยี่ปั้วรายหนึ่งระบุว่า การกำหนดมาตรการทางด้านราคาส่งผลกระทบต่อรายได้ เนื่องจากต้องรับสลากกินแบ่งมาจากยี่ปั้วอีกรายก่อนนำมาแบ่งเป็นชุด โดยสบากกินแบ่งแบบก้อนและแบบเล่มมรับมาในราคา 78 บาท แต่ต้องขายในราคา 80 ซึ่งได้กำไรแค่ 2 บาทเท่านั้น ส่วนสลากกินแบ่งแบบชุดชุดละ 15 ใบ รับมาในราคา ชุดละ 1,200 บาท ซึ่งเฉลี่ยแล้วรับมาใบบะ 80 บาท ในส่วนนี้ คสช.อนุญาตให้ขายตามกลไกตลาด ซึ่งตนนำมาขายในราคาชุดละ 1,250 บาท ทั้งนี้นางสาวกัลยารัตน์ ใคร่ครวญ ยังกล่าวอีกว่า ผู้ค้ารายย่อยบางส่วนไม่มีปัญหาในการซื้อสลากฯ แต่บางรายกลับเรียกร้องราคาต่ำกว่า 80 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการสอบถามเหตุการณ์ประท้วงในครั้งนี้เกิดจาก ยี่ปั้วขึ้นราคาสลากภายหลังจากมีผู้ค้ารายย่อยจำนวนมากทยอยเดินทางมาซื้อ ทำให้ผู้ค้ารายย่อยเกิดความไม่พอใจจนประท้วงปิดถนน