'เอสซีจี'เตรียมเพิ่มงบลงทุน5ปี

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 24 กรกฎาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "เอสซีจี"เตรียมปรับเพิ่มงบลงทุน 5 ปี จากเดิมอยู่ที่ 2.5 แสนล้านบาท หลังต้นทุนพุ่ง และเพิ่มการลงทุนในอาเซียน

    นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับเป้ายอดขายในปีนี้เพิ่มขึ้น หลังประกาศผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2 ในช่วงสิ้นเดือนนี้ จากเดิมตั้งเป้าที่ 4.76 แสนล้านบาท แม้ภาพรวมธุรกิจซีเมนต์ในประเทศไม่ค่อยดี ทำให้รายได้ในประเทศลดลง แต่รายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งจากการส่งออก และการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา

    "แนวโน้มรายได้ในประเทศที่มีสัดส่วน 65% ของรายได้รวมคงลดลง แต่รายได้จากการส่งออกจะเพิ่มเป็น 27-28% จากเดิมอยู่ที่ 26% ยังไม่รวมรายได้จากการลงทุนในภูมิภาคที่มีสัดส่วน 9% ของรายได้รวม"

    นอกจากนี้บริษัท ยังจะปรับเพิ่มงบลงทุน 5 ปี จากเดิมตั้งไว้ที่ระดับ 2.5 แสนล้านบาท หลักๆ จะเพิ่มการลงทุนในอาเซียนให้มากขึ้น และต้นทุนการลงทุนก็เพิ่มขึ้น สำหรับการลงทุนในโครงการปิโตรเคมีในเวียดนาม อาจเลื่อนจากปลายปีนี้เป็นต้นปีหน้า เพราะมูลค่าโครงการอาจมากกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์ จากต้นทุนการเงิน และราคาวัสดุก่อสร้าง

    ทั้งนี้อยากจะเร่งการลงทุนในโครงการ เพราะหากล่าช้า ต้นทุนต่างๆ อาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจุบัน ขณะที่ความต้องการในตลาดโลกก็กำลังเติบโต โดยเฉพาะความต้องการจากจีน ตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว

    ส่วนความต้องการใช้ซีเมนต์ในประเทศปีนี้ มองว่า ยังเติบโตในระดับ 0-1% เติบโตต่ำกว่าคาด จากโครงการลงทุนภาครัฐที่ไม่ออกมาเลยในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ไตรมาส 3 อาจจะไม่มีการเติบโต แต่แนวโน้มช่วงไตรมาส 4 จะฟื้นตัว หากมีโครงการลงทุนออกมา จึงเสนอให้ภาครัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่คั่งค้างในช่วงที่ผ่านมาออกมาสู่ระบบ

    ด้าน บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดประมาณการกำไรของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ปีนี้ลง 14% และ 7.5% ตามลำดับ สะท้อนธุรกิจหลักที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด โดยความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างชะลอตัวในทุกกลุ่ม ทั้งภาครัฐและเอกชน จากปัญหาความไม่สงบในประเทศ และมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมี แม้ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ (สเปรด) จะยืนเหนือระดับ 600 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ประโยชน์ส่วนใหญ่ยังคงตกอยู่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต้นน้ำ ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่เพียง 2 ใน 3

    สำหรับธุรกิจกระดาษ ถือเป็นเพียงธุรกิจเดียวที่ยังสดใส จากความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่เติบโตตามการส่งออก ส่วนธุรกิจลงทุนน่าจะมีเงินปันผลรับจากโตโยต้า ลดลงจากปีก่อนที่มีเข้ามาถึง 2.2 พันล้านบาท เพราะการชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ โดยรวมจึงคาดกำไรงวดไตรมาส 2 ของปีนี้ จะอยู่ที่ 8.17 พันล้านบาท ลดลง 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดเงินปันผลครึ่งปีแรกจะอยู่ที่ระดับ 6 บาทต่อหุ้น

    บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า คาดกำไรไตรมาส 2 ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทยไม่โดดเด่น อยู่ที่ระดับ 8.7 พันล้านบาท ลดลง 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรครึ่งปีแรกคิดเป็นสัดส่วน 44% ของประมาณการทั้งปี ทำให้ฝ่ายวิจัยเตรียมปรับประมาณการลง แต่ระยะยาวคาดจะเติบโต จากการลงทุนต่อเนื่องภายใต้แผน 5 ปี 2.5 แสนล้านบาทที่เน้นการลงทุนในอาเซียน

    ธุรกิจปิโตรเคมียังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การลงทุนภาครัฐ จะหนุนธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างปีหน้า จึงคงคำแนะนำซื้อ แต่ในระยะสั้นราคาหุ้นมีแนวโน้ม จะถูกกดดันจากผลประกอบการไตรมาส 2 และปีนี้จะไม่เด่น บวกกับราคาหุ้นได้ปรับขึ้นจากต้นปี 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มีแนวโน้มจะเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้น

    Tags : กานต์ ตระกูลฮุน • แบดเอสซีจี • งบลงทุน • ต้นทุน

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้