ทหารไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอีฟื้นชัด ไตรมาส 2 อยู่ที่ 36.6% ชี้เอสเอ็มอีคลายกังวลการเมือง นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกว่า1,000 กิจการ เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดย่อม ทีเอ็มบี (TMB-SME Sentiment INDEX) ไตรมาส 2 ปีนี้ พบว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความกังวลปัญหาทางการเมืองลดลง แต่ยังคงกังวลภาวะเศรษฐกิจการเงิน และสภาพคล่อง หรือกระแสเงินสดของคู่ค้าอยู่ โดยในไตรมาสนี้ดัชนีความเชื่อมั่น ของผู้ประกอบการในปัจจุบันทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่ปรับลดลง และล่าสุดอยู่ที่ระดับ 36.6 นับว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ประกอบการยังเผชิญภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ที่ชะลอตัวต่อเนื่องในไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้ความกังวลเรื่องกระแสเงินสดของคู่ค้านั้น หากข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ในการปลดล็อกเอสเอ็มอีผ่านการขยายเพดานการค้ำประกันสินเชื่อจะช่วยให้ปัญหาดังกล่าวหายไป หากพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการใน 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 55.7 จากไตรมาสก่อนที่ 51.1 เนื่องจากธุรกิจเอสเอ็มอีคาดหวังผลประกอบการใน 3 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน สอดคล้องกับที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีมาตรการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจออกมาอย่างเร่งด่วน เป็นการสร้างบรรยากาศและมุมมองที่เป็นบวกต่อภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวตั้งแต่ปีก่อน และไม่ได้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ ออกมา สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการรายเดือนนั้น พบว่า ในเดือน มิ.ย.โดยดัชนีขึ้นมาอยู่ที่ 37.6 จากระดับ 32.8 ในเดือนก่อนที่นับว่าเป็นจุดต่ำสุดในปีนี้ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้าพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก มาอยู่ที่ 62.2 ในเดือนมิ.ย.จากระดับ 51.7 ในเดือนก่อนหน้า นับเป็นระดับความเชื่อมั่นรายเดือนที่สูงที่สุดในรอบ 9 เดือน และเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในห้วงเวลาหนึ่งเดือนตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจมา "ไตรมาส 2 ผู้ประกอบการยังคงห่วงปัญหาการเมืองมากที่สุดคือ 37.8% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสแรกแต่หากพิจารณาเฉพาะผลสำรวจในเดือน มิ.ย.หลังการยึดอำนาจการปกครอง พบว่า ผู้ประกอบการมีความกังวลในเรื่องของปัจจัยทางการเมืองลดลงค่อนข้างมาก คือจาก45.6% ในเดือน พ.ค.เหลือที่ 24.9%ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่เดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และกลับมาให้ความสำคัญกับภาวะธุรกิจและเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น และเมื่อวิเคราะห์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้ประกอบในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พบว่าผู้ประกอบการคาดหวังผลประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน" สำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้คาดว่าจะเติบโตในระดับ 2% จากการขยายตัวในช่วงครึ่งหลังของปีที่ระดับ 4.2% ขณะที่ครึ่งปีการเติบโตเป็น 0% โดยเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาทำงานทั้งการบริโภคและการลงทุนในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี และจะสนับสนุนให้จีดีพีในปี 2558 กลับมาสู่ระดับปกติหรือขยายตัวได้สูงกว่า 4% โดยเฉพาะการเร่งอนุมัติโครงการของบีโอไอและการดึงบีโอไอเข้าไปอยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะช่วยให้เกิดความรวดเร็วโดยเฉพาะบทบาทการสนับสนุนให้เกิดการค้าชายแดนที่เป็นจุดเด่นของไทยภายใต้ปริบทของเออีซี ทั้งนี้กรณีที่สภาพัฒน์เตรียมปรับจีดีพี 2.5% นั้นเห็นว่ามีโอกาสที่จะเป็นได้ หากความมั่นใจในการลงทุนเกิดขึ้นได้ทั้งจากภาครัฐและต่างชาติ ส่วนอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 2% ไปถึงสิ้นปีนี้ และมีโอกาสปรับขึ้นได้ 0.5-0.75% ในปี 2558 จากภาวะเศรษฐกิจที่กลับมาขยายตัวตามศักยภาพ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และกลับมาเป็นประเด็นในปีหน้า ประกอบกับสหรัฐมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Tags : TMB • ทหารไทย • ดัชนีเชื่อมั่น • เอสเอ็มอี