นักลงทุนในประเทศแห่ขาย"หุ้นใหญ่-สื่อสาร" กดดัชนีดิ่ง 17 จุด ชี้เทขายหวังทำกำไร บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (22 ก.ค.) ปิดการซื้อขายที่ 1,520.81 จุด ลดลง 17.74 จุด หรือ 1.15% ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,545.29 จุด และต่ำสุดที่ 1,516.93 จุด มูลค่าการซื้อขายที่ 38,572 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 13 เดือน ที่เคยทำสถิติมูลค่าการซื้อขายสูงสุดที่68,645 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2556 ทั้งนี้ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,066 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 579 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 1,716ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ 930 ล้านบาท ขณะเดียวกัน วานนี้ (22 ก.ค.) มีรายการบิ๊กล็อต 19 หลักทรัพย์ 42 รายการ โดยธนาคารกรุงเทพ(BBL) มีมูลค่าสูงสุด 336.41 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 198.95 บาท ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกคือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ปิดการซื้อขายที่ 206 บาท ลดลง8 บาท หรือ 3.74% มูลค่าการซื้อขาย 4,472 ล้านบาท, บริษัท บางกอกแลนด์ (BLAND) ปิดการซื้อขายที่ 2.10 บาท ลดลง 0.12 บาท หรือ 5.41%มูลค่าการซื้อขาย 3,318 ล้านบาท, บริษัท ช.การช่าง (CK) ปิดการซื้อขายที่ 22.30 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ 2.62% มูลค่าการซื้อขาย 2,809ล้านบาท, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ปิดการซื้อขายที่ 11.40 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 4.20% มูลค่าการซื้อขาย 2,762 ล้านบาท และธนาคารกรุงไทย (KTB) ปิดการซื้อขายที่ 22.20 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 0.89% มูลค่าการซื้อขาย 2,235 ล้านบาท ด้านนายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลง 17 จุดเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่ออกมาค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการทำกำไรหลังจากที่หุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง 5 สัปดาห์ติดต่อกัน นอกจากนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรมาสนับสนุนตลาดในช่วงนี้ด้วย "มองอยู่แล้วว่าหุ้นจะต้องมีการปรับพักฐานบ้าง หลังจากปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว ตลอด 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้เห็นปัจจัยอะไรที่เป็นพิเศษมากกว่า คงเป็นการเทขายเพื่อทำกำไรมากกว่า" ขณะที่นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าแกว่งตัวเพื่อปรับฐาน และในช่วงบ่ายก็ปรับตัวลดลงซึ่งเป็นการพักฐาน เนื่องจากตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมามาก ขณะเดียวกัน มีความคาดหวังเรื่องความชัดเจนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนในวานนี้ แต่กลับผิดหวัง ทำให้มีการเทขายหุ้นไทยเพื่อทำกำไร ปัจจัยหลักที่ยังหนุนตลาดอยู่ก็ยังคงเป็นปัจจัยเดิม ทั้งเรื่องของการเมืองที่เริ่มนิ่งขึ้น แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่จะฟื้นตัวขึ้น และกระแสเงินทุนต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้นไทย "เรายังไม่เห็นว่าปัจจัยอะไรหลักๆ ที่ทำให้ดัชนีปรับตัวลงไปแรง แต่คาดว่าน่าจะเป็นการปรับพักฐานของตลาด" สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม คือข้อสรุปโครงสร้างพื้นฐานแผนการลงทุนขนาดใหญ่ด้าน คมนาคม 2 ล้านล้านบาท ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, การปฏิรูปพลังงาน รวมทั้งความคืบหน้าเรื่องการแจกคูปองทีวีดิจิทัล ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ส่วนปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน บล.เคเคเทรด กล่าวว่า หุ้นกลุ่มสื่อสารยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลกระทบจากการเลื่อนประมูล 4จี เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ผลกระทบยังคงกดดันหุ้นกลุ่มสื่อสารอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเผชิญแรงขายเพื่อทำกำไร หลังจากที่ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารปรับตัวเพิ่มขึ้นจนเกินมูลค่าเหมาะสมค่อนข้างมาก ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังไม่ปรับเป้าหมายกำไรกลุ่มสื่อสารเนื่องจากไม่ได้นับรวมค่าโครงข่ายจากคลื่น 4จี ไว้ตั้งแต่แรก Tags : ตลาดหุ้น • หุ้นสื่อสาร • ขายทำกำไร