"ทรัพย์ศรีไทย" ทุ่มซื้อเกรฮาวด์ทั้งแฟชั่นและร้านอาหาร 1.8 พันล้านบาท หวังขยายฐานรายได้ธุรกิจอาหารในต่างประเทศ นายสัมฤทธิ์ ตันติดิลกกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรัพย์ศรีไทย (SST) กล่าวว่า บริษัทและบริษัท มัดแมน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญ และหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดของ บริษัท เกรฮาวด์ จำกัด (แฟชั่น) 969,900 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท และหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้งหมดบริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด (คาเฟ่) 107,843 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาทเช่นกัน จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของแฟชั่นและคาเฟ่ในราคารวม 1,853.80 ล้านบาท ส่วนเงื่อนไขการชำระเงิน 1,853.80 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสด 1,265.80 ล้านบาท และหุ้นของมัดแมนมูลค่ารวม 588.00 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 15.67% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของมัดแมนภายหลังจากการทำรายการ โดยบริษัทจะถือหุ้นในมัดแมน 75% เนื่องจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของมัดแมนเพื่อชำระราคาค่าหุ้นแฟชั่น และคาเฟ่ครั้งนี้ มัดแมนได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น (KSL)787,186 หุ้น ซึ่งคิดเป็น 9.33% ราคาหุ้นละ 444.62 บาท มูลค่ารวม 350 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกลุ่มของบริษัท เขากล่าวว่า แหล่งเงินทุนจะมาจากการออกหุ้นเพิ่มทุนของมัดแมน เงินกู้จากสถาบันการเงิน และเงินกู้จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของแฟชั่นและคาเฟ่ ซึ่งในสัญญากู้ยืมได้ระบุเงื่อนไขว่า บริษัทจะจ่ายเงินปันผลได้ ต่อเมื่ออัตราส่วนความสามารถในการชาระหนี้ (DSCR) ซึ่งคำนวณโดยใช้งบการเงินรวมของบริษัทไม่ต่ำกว่า 1.25:1 หรือเป็นการจ่ายเงินปันผล เพื่อบริหารจัดการเงินสดภายในกลุ่มบริษัท หรือเป็นการจ่ายหุ้นปันผล นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่า การเข้าทำรายการครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่ดำเนินการภายใต้บริษัทมัดแมนออกไปให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะโอกาสในการขยายสู่ต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังช่วยให้กลุ่มบริษัทมีแบรนด์เป็นของตนเอง เพิ่มเติมจากธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีอยู่ เป็นการเสริมศักยภาพการขยายธุรกิจในอนาคต อีกทั้งยังสามารถกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจเดิมของบริษัทไปยังธุรกิจแฟชั่น ซึ่งเป็นธุรกิจที่เสริมในแง่ของแบรนด์ที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ กระแสเงินสดของคาเฟ่และแฟชั่นสามารถเพิ่มสภาพคล่องและความสามารถของบริษัทในการขยายกิจการในอนาคตอีกด้วย ขณะที่นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทรัพย์ศรีไทย (SST) กล่าวว่า บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าถือหุ้นในบริษัท เกรฮาวด์ ทั้งแฟชั่นและคาเฟ่ ในช่วงไตรมาส 3/2557 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยแผนการเข้าบริหารสินทรัพย์ของเกรฮาวด์ ภายหลังการเข้าถือหุ้น 100% ได้และผู้บริหารยังอยู่ระหว่างการประชุมเพื่อหารือแผนดังกล่าว ด้านบริษัท น้ำตาลขอนแก่น (KSL) แจ้งว่า บริษัทได้เข้าลงทุนใน บริษัท มัดแมน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัททรัพย์ศรีไทย (SST)โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท มัดแมน จำกัด จำนวน 787,186 หุ้น มูลค่า 350 ล้านบาท คิดเป็น 9.328% ของทุนจดทะเบียน ทั้งนี้เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจอาหาร โดย บริษัท มัดแมน จำกัด ดำเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มซึ่งได้สิทธิประกอบธุรกิจ DUNKINDONUT, AU BON PAIN, และ BASKIN ROBBINS ในประเทศไทย การทำรายการดังกล่าว ถือเป็นรายการเกี่ยวโยง เนื่องจาก กรรมการ 3 คนของ KSL ได้แก่ นางอินทิรา สุขะนินทร์ นางสาวดวงแข ชินธรรมมิตร์ และนางสาวดวงดาว ชินธรรมมิตร์ ซึ่งถือหุ้นใน KSL 0.57% ,0.21% และ 2.21% ตามลำดับ เป็นกรรมการใน SST และถือหุ้น SST10.34%, 5.57% และ 5.45% ตามลำดับ ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท ทรัพย์ศรีไทย (SST) วานนี้ (22 ก.ค.) ราคาปิดการซื้อขายที่ 22.10 บาท ลดลง 1.90 บาท หรือ 7.92%มูลค่าการซื้อขาย 295 ล้านบาท ราคาหุ้นเฉลี่ยในเดือนมิ.ย.2557 อยู่ที่ 22 บาท และเดือนก.ค. อยู่ที่ 24 บาท โดยในเดือนก.ค. ราคาหุ้นเคยสูงสุดที่25 บาท เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2557 ขณะที่ราคาหุ้นบริษัท น้ำตาลขอนแก่น (KSL) วานนี้ ปิดการซื้อขายที่ 14.10 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 0.70% มูลค่าการซื้อขาย 18.3ล้านบาท ภาณุ มั่นใจทรัพย์ศรีไทยเสริมธุรกิจแกร่ง ด้านนายภาณุ อิงคะวัต ผู้อำนวยการผู้บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท เกรฮาวด์ จำกัด กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการเกรฮาวด์ โดยบริษัท ทรัพย์ศรีไทย และบริษัทในเครือ ถือว่าตอบสนองต่อนโยบายและเป้าหมายในการขยายฐานตลาดต่างประเทศ ในระดับภูมิภาคอาเซียน โดยเป็นการจับมือและร่วมกันพัฒนาธุรกิจสู่ตลาดโลก ซึ่งทรัพย์ศรีไทยจะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้แบรนด์ “เกรฮาวด์”มากขึ้น “ทั้งทรัพย์ศรีไทยและเกรฮาวด์ มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ขยายตลาดในภูมิภาค ซึ่งเป็นตลาดใหม่ๆ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในไทย” ทั้งนี้ มองว่าทิศทางธุรกิจจากนี้ไป จะมีแนวโน้มที่ดี เพราะทรัพย์ศรีไทย มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการบุกตลาดต่างประเทศการพัฒนากลยุทธ์การตลาด ซึ่งจะช่วยศึกษา วิเคราะห์และเจาะตลาดต่างประเทศได้มาก โดยมีแผนจะพัฒนาระบบหลังบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบคลังสินค้า การจัดเก็บ-ขนส่งสินค้า ตลอดจนระบบครัวกลาง จากเดิมใช้งบลงทุนในการพัฒนาปีละ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ ตั้งเป้าหมายระยะยาวช่วง 3-5 ปีข้างหน้า มีนโยบายจะขยายสาขาเกรฮาวด์คาเฟ่ และกลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น ให้ครบ 25 สาขาในภูมิภาคอาเซียน จากปัจจุบันมีจำนวนกว่า 15 สาขา โดยงบลงทุนในการขยายสาขาจะขึ้นอยู่กับการศึกษาตลาดและรูปแบบการลงทุน ซึ่งอาจเกิดขึ้นทั้งการเข้าไปร่วมทุน และการขายแฟรนไชส์ นายภาณุ กล่าวอีกว่า สนใจเข้าไปขยายตลาดภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพราะกระแสการเติบโตของไลฟ์สไตล์และกำลังซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ปัจจุบัน มีสาขาเกรฮาวด์คาเฟ่และแฟชั่นในต่างประเทศ ได้แก่ ในฮ่องกง 5 สาขา เมืองปักกิ่งที่จีน 1 สาขา และเซี่ยงไฮ้ 1 สาขา โดยภายในปีนี้จะขยายสาขาเพิ่มใน ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ อีก 2 สาขา Tags : สัมฤทธิ์ ตันติดิลกกุล • ทรัพย์ศรีไทย • เกรฮาวด์