'แกรมมี่'ทิ้งเพย์ทีวีแลกหุ้นซีทีเอช10%

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 23 กรกฎาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    "แกรมมี่-ซีทีเอช" จับมือรุกธุรกิจเพย์ทีวี "ไพบูลย์-วิชัย ทองแตง" แถลงวันนี้

    เผย"แกรมมี่"ขายธุรกิจคอนเทนท์เพย์ทีวีแลกกับหุ้น"ซีทีเอช" 10% หวังลดภาระต้นทุน ดันฐานะการเงินฟื้น หลังขาดทุนต่อเนื่องหลายปี นักวิเคราะห์ชี้แกรมมี่ลดบทบาทธุรกิจเพย์ทีวี จับตาแข่ง"ทรูวิชั่น"

    วานนี้ (22 ก.ค.) บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอหยุดพักการซื้อขายหุ้นเป็นการชั่วคราวในช่วงบ่าย เนื่องจากจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาตัดสินใจในเรื่องสำคัญและมีผลต่อโครงสร้างการประกอบธุรกิจของบริษัท ก่อนจะแจ้งผลการประชุมในช่วงเย็นว่าจะมีการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจเพย์ทีวี เพื่อร่วมมือกับกลุ่มซีทีเอช (CTH)

    ทั้ง 2 บริษัท มีกำหนดการเซ็นสัญญาทางธุรกิจและแถลงข่าวประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพย์ทีวีอย่างเป็นทางการ ในวันนี้ ( 23 ก.ค.) ภายใต้ชื่องาน บียอนด์ เดอะ เบสท์ “BEYOND THE BEST” ก้าวที่ยิ่งใหญ่ สู่ที่สุดแห่งความบันเทิงที่เหนือกว่า โดยมีผู้บริหารจากทั้ง 2 บริษัทเข้าร่วม ทั้งนายวิชัย ทองแตง จากฝั่งทีซีเอส และนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม และ นางสาวบุษบา ดาวเรือง จากฝั่งแกรมมี่

    นายปรีย์มน ปิ่นสกุล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัท แซท เทรดดิ้ง (Z TRADING) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซีทีเอช (CTH) ในสัดส่วน 10% หรือจำนวน 30 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 1.03 พันล้านบาท คิดเป็นราคา 34.33 บาทต่อหุ้น โดยจะชำระค่าหุ้นสามัญทั้งหมด หรือ 100 % ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม บี ให้กับบริษัทย่อยของซีทีเอช คือ บริษัท ซีทีเอช แอลซีโอ โดยรายการซื้อขายหุ้นครั้งนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้

    การทำรายการนี้ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก หรือ เพย์ทีวี มีการแข่งขันสูง และใช้เงินลงทุนสูง ซึ่งลักษณะธุรกิจของซีทีเอช และจีเอ็มเอ็มบี สามารถส่งเสริมและเกื้อหนุนซึ่งกันและกันได้ ดังนั้น การที่ แซท เทรดดิ้ง เข้าลงทุนหุ้นสามัญของซีทีเอช จะช่วยลดต้นทุน และลดการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

    บอร์ดมั่นใจเอื้อธุรกิจกัน

    ขณะที่คณะกรรมการให้ความเห็นว่า รายการนี้มีความเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อบริษัท เพราะซีทีเอช เป็นบริษัทที่เกิดจากการรวมตัวของผู้ประกอบการเคเบิลทีวีทั่วประเทศ มีการให้บริการและบริหารคอนเทนท์หลายประเภท และมีฐานลูกค้ามากกว่า 2.5 ล้านครัวเรือน การเข้าลงทุนครั้งนี้ จะช่วยลดต้นทุนของกลุ่มบริษัท ก่อให้เกิดการสนับสนุน เกื้อหนุนธุรกิจซึ่งกันและกัน เป็นผลดีต่อธุรกิจของกลุ่มบริษัททั้งในปัจจุบันและอนาคต

    "ธุรกิจเพย์ทีวีต้นทุนสูงทั้ง 2 บริษัท การแลกหุ้นกัน โดยเราเข้าไปถือในซีทีเอช 10% แล้วจ่ายเป็นหุ้นทั้งหมด ของบริษัทลูก คือจีเอ็มเอ็มบี ซึ่งเป็นบริษัทที่หาคอนเทนท์ให้กับธุรกิจเพย์ทีวี ทำให้บริษัทไม่ต้องรวมงบของบริษัทนี้อยู่ในงบรวมของแกรมมี่ ฐานะงบการเงินของบริษัทก็จะดีขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังขายกล่องจีเอ็มเอ็มแซทอยู่ ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัท แซท เทรดดิ้ง"

    โบรกชี้หวังลดบทบาทธุรกิจเพย์ทีวี

    นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์การลงทุน บล.เคเคเทรด คาดว่าแกรมมี่จะประกาศความร่วมมือกับซีทีเอช เพื่อทำธุรกิจเพย์ทีวีร่วมกันอย่างจริงจัง หลังจากที่เคยร่วมมือกันไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ทั้ง 2 บริษัทต่างก็ขาดทุนในการทำธุรกิจเพย์ทีวีด้วยกันทั้งคู่ โดยปีที่แล้วแกรมมี่ขาดทุนสุทธิเกือบ 1.3พันล้านบาท และไตรมาสแรกของปีนี้ก็ขาดทุนเกือบ 800 ล้านบาท หลักๆ มาจากธุรกิจเพย์ทีวี

    สำหรับความร่วมมือของทั้ง 2 บริษัทที่เคยร่วมมือกันแล้วก่อนหน้านี้ โดยทางซีทีเอชให้คอนเทนต์ "ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก" แก่เจ้าของแพล็ทฟอร์มต่างๆ เช่น พีเอสไอ (PSI) และจีเอ็มเอ็มแซส (GMM Z) เป็นบริษัทลูกของแกรมมี่ ร่วมขายให้กับสมาชิก แต่ไม่ประสบผลสำเร็จต่อทั้งซีทีเอช และแกรมมี่มากนัก กลุ่มลูกค้าของพีเอสไอ ไม่น่าใช่กลุ่มลูกค้าเพย์ทีวีที่ซีทีเอชต้องการ และการให้ผู้ประกอบการแพล็ทฟอร์มหลายรายมีคอนเทนท์ ดีๆ เหมือนกัน (ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก) ทำให้ไม่เกิดประโยชน์ต่อเจ้าของแพล็ทฟอร์มที่มีคอนเทนต์นั้นๆ มากนัก

    "แกรมมี่คงต้องการจะลดบทบาทในธุรกิจเพย์ทีวีลง เพราะเป็นตัวที่ฉุดผลประกอบการมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหากลดบทบาทลงได้มากเท่าไรก็จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของแกรมมี่มากท่านั้น นอกจากนี้หากยื้อธุรกิจนี้ต่อไปในรูปแบบเดิม นอกจากทำให้ผลประกอบการยังขาดทุนต่อเนื่องแล้ว ยังทำให้แกรมมี่ไม่สามารถโฟกัสธุรกิจทีวีดิจิทัล ที่มีต้นทุนและการแข่งขันสูงได้"

    จับตาแนวโน้มคู่แข่งทรูวิชั่น

    นายดิษฐนพ กล่าวต่อว่า การร่วมมือกันย่อมเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 บริษัทในด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน จากจุดแข็งที่ทั้ง 2 บริษัทมีแตกต่างกัน โดยแกรมมี่ มีแพล็ทฟอร์มกล่องรับสัญญาณดาวเทียมที่เข้าถึงครัวเรือนแล้วกว่า 2 ล้านครัวเรือน แต่ยังไม่มีคอนเทนต์ที่มีศักยภาพที่จะไปแข่งขันกับทรูวิชั่นส์ได้ ขณะที่ซีทีเอช มีจุดแข็งจากการมีคิง ออฟ คอนเทนท์ อยู่ในมือคือ ลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ยังเหลือสัญญาอยู่อีก 2 ฤดูกาล แต่ระบบโครงข่ายเพย์ทีวียังไม่มีความพร้อมทำให้เกิดปัญหาบริการหลังการขายส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า

    "การร่วมมือครั้งนี้เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย ที่อาจจะลดต้นทุน และร่วมกันพัฒนาธุรกิจได้ แต่จะเกิดผลดีแค่ไหน จะแข่งกับทรูวิชั่นได้หรือไม่นั้นคงต้องติดตาม อย่างไรก็ตามในส่วนของแกรมมี่ผลประกอบการน่าจะดีขึ้น แต่คงไม่ได้ทำให้มีกำไรได้ในทันทีปีนี้ เพราะมีแนวโน้มว่าในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ก็น่าจะยังขาดทุนในระดับที่ใกล้เคียงไตรมาสแรก ซึ่งรวมครึ่งปีแรกก็อาจขาดทุนถึง 1.6 พันล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วทั้งปี"

    5วันราคาหุ้นขยับขึ้น20%

    สำหรับราคาหุ้นของแกรมมี่ที่ปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา หรือมาแตะระดับ 18 บาท จากก่อนหน้านี้ซื้อขายที่ระดับ 15 บาท เป็นการเก็งกำไรจากข่าวความร่วมมือในครั้งนี้ และได้สะท้อนความร่วมมือไปแล้ว จึงยังไม่แนะนำลงทุน เพราะมองว่าราคาหุ้นแกรมมี่ที่ผ่านมา ยังไม่ปรับตัวลงสะท้อนผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการลงทุนธุรกิจเพย์ทีวีในช่วง2ปีที่ผ่านมา และคาดว่าปีนี้จะยังขาดทุนต่อเนื่องอีกประมาณ 2 พันล้านบาท

    ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นแกรมมี่วานนี้ ปิดตลาดที่ 17.70 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 1.67% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 11.58 ล้านบาท

    Tags : แกรมมี่ • เพย์ทีวี • ซีทีเอช • ราคาหุ้น • ทรูวิชั่น

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้