กูเกิลตีพิมพ์รายงานวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค รายงานการศึกษาวงการการรับติดตั้งซอฟต์แวร์ โดยเครือข่ายโฆษณาที่จ่ายเงินเพื่อให้ติดตั้งซอฟต์แวร์บนเครื่องผู้ใช้ ตั้งแต่ 0.1 ถึง 1.5 ดอลลาร์ต่อการติดตั้งแต่ละครั้ง นำไปสู่การติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้ไม่ต้องการ วงการเหล่านี้มักอาศัยการบัลเดิลซอฟต์แวร์ไปกับตัวติดตั้งที่ได้รับความนิยม โดยสร้างตัวเลือกที่หลอกล่อผู้ใช้ เช่น ระบบว่าเป็น "Express Install" แล้วติดตั้งซอฟต์แวร์อื่นๆ ด้วยทันที รายงานพบว่าซอฟต์แวร์ห้ากลุ่มหลักที่มักใช้บริการการรับติดตั้งเช่นนี้ ได้แก่ Anti-Virus: รายงานพบว่า AVG, LavaSoft, Comodo, และ Qihoo ซื้อบริการติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อให้ติดตั้งตัวป้องกันไวรัสของตัวเอง Ad Injector: โปรแกรมดักฟังการเข้าเว็บแล้วแสดงโฆษณาบนหน้าเว็บของผู้ใช้โดยตรง สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งาน Browser Settings Hijacker: โปรแกรมที่ปรับค่าการใช้งาน เช่น หน้าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ และเว็บค้นหามาตรฐาน ให้ไปใช้เว็บที่ต้องการ โปรแกรมในกลุ่มนี้บางตัวก็เป็น Ad Injector ด้วย System Utility: โปรแกรมที่โฆษณาว่าสามารถเร่งความเร็วเครื่องได้ หรือหลอกผู้ใช้ว่าเครื่องมีปัญหาให้ซื้อซอฟต์แวร์เพิ่มเติม แบรนด์หลักๆ: น่าแปลกว่ามีแบรนด์หลักๆ ซื้อบริการติดตั้งซอฟต์แวร์เช่นนี้ด้วย ได้แก่ Opera, Skype, Yahoo! Toolbar, และ AOL Toolbar กูเกิลระบุว่ากำลังหาทาง "ทำความสะอาด" วงการด้วยการปรับนโยบายโฆษณา และยกเลิกบัญชีผู้โฆษณาที่ลงผิดกฎ นอกจากนี้กูเกิลยังจัดประชุมผู้ผลิตโปรแกรมป้องกันไวรัสเพื่อสร้างแนวทางการบล็อคซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้ไม่ได้ต้องการเหล่านี้ ที่มา - Google Security Topics: Google