เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญขึ้นระหว่างการเข้ารื้อตึกนารีสโมสร และปรับภูมิทัศน์ภายในทำเนียบรัฐบาล เป็นวันแรก โดยเจ้าหน้าที่ ได้กลิ่นน้ำอบไทยลอยคละคลุ้ง จนต้องจุดธูปเทียนขอขมาก่อนจะปฏิบัติงานต่อได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) เจ้าหน้าที่กรมยุทธโยธาทหารบกเริ่มเข้าปฏิบัติงานในการปรับปรุงตึกนารีสโมสร อาคาร สถานที่ และภูมิทัศน์ภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก โดยหัวหน้างานได้กำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนรื้อตึกนารีสโมสรด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากไม่ต้องการให้กระทบต่อโครงสร้างหลักเดิมของตัวอาคาร ซึ่งเมื่อเริ่มรื้อพื้นที่ภายในห้องทำงานโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี พบว่ามีปลวกกินเป็นจำนวนมาก เพราะโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นไม้และมีอายุการใช้งานมายาวนาน ทำให้ต้องเร่งกำจัดปลวกทั้งตัวอาคาร และในสัปดาห์หน้าจะเริ่มดำเนินการในขั้นตอนต่อไป อาทิ ดูเรื่องการทาสีภายในใหม่ รวมทั้งตกแต่งภายใน สำหรับห้องทำงานของโฆษกและรองโฆษกรัฐบาลนั้น จะย้ายไปอยู่ที่ชั้น 4 ของตึกบัญชาการ 2 โดยทั้งตึกบัญชาการ 2 ทั้งหมดจะถูกปรับปรุงเป็นสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของตึกไทยคู่ฟ้าตึกสันติไมตรี ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปปรับปรุงตัวอาคารแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักโฆษกฯ กำลังเก็บอุปกรณ์เพื่อขนย้ายสิ่งของอยู่นั้น ปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่กำลังเก็บของบริเวณห้องด้านหลังศูนย์แถลง หรือตึกพระอาทิตย์ ได้ตะโกนร้องเรียกให้เพื่อนที่อยู่บริเวณด้านนอกเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมบอกเพื่อนที่เข้ามาช่วยเหลือด้วยสีหน้าตื่นตระหนกว่า ขณะที่เก็บของอยู่นั้น ได้กลิ่นน้ำอบไทยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนที่เข้าไปช่วยเหลือ ก็ระบุว่าได้รับกลิ่นดังกล่าวเช่นเดียวกัน ทำให้ทีมงานทั้งหมดได้ทำการจุดธูปไหว้ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนที่จะทำการรื้อถอนเพื่อปรับปรุงตึกนารีสโมสรต่อไป