บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาดวอลุ่มครึ่งปีหลังแตะ 45,000 ล้านบาท ส่วนดัชนีแตะ 1580 จุด นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะครึ่งปีแรกภาพรวมตลาดหุ้นไทย และธุรกิจหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพราะมูลค่าการซื้อขายหายไปกว่า 40-50% จากเฉลี่ย 60,000 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกปี 2556 ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีในตลาดหุ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่กลับมาเริ่มผลักดันให้มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าหากไม่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบอีก กลุ่มธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ในครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วงครึ่งหลังปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 40,000-45,000 ล้านบาท ส่วนทั้งปียังคาดหวังว่าจะได้เห็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 40,000 ล้านบาท และบริษัทได้เพิ่มเป้าดัชนีปลายปีนี้เป็น 1,580 จุด จากก่อนหน้านี้ที่ 1,550 จุด หลังจากประเมินตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันแล้ว พบว่าอยู่ในเชิงบวก และอาจปรับเพิ่มอีกหากดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง "กระแสเงินทุนจากต่างชาติมีโอกาส ที่จะไหลกลับเข้ามาในประเทศได้อีก หลังปัญหาการเมืองในประเทศคลี่คลายทำให้ความเชื่อมั่นน่าจะกลับมาดีอีกครั้ง ซึ่งตลาดหุ้นไทยมีศักยภาพในการเติบโตได้ดี ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง" สถานการณ์ต่างประเทศด้านการก่อการร้ายและปัญหาสงคราม ไม่น่าจะกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก มองว่าน่าจะส่งผลทางจิตวิทยาในระยะสั้นเท่านั้น ขณะที่กระแสเงินร้อนของนักลงทุนต่างชาติก็ไหลออกไปเป็นจำนวนมากแล้วตั้งแต่ตอนสหรัฐฯประกาศลดมาตรการคิวอี จึงไม่น่ากังวลมากนัก เขากล่าวอีกว่า ครึ่งหลังปีนี้ บริษัทมีแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ รวม 4 บริษัทเบื้องต้นคาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ และเชื่อว่าตลาดไอพีโอในครึ่งหลังปีนี้ จะกลับมาอยู่ในระดับที่ดีอีกครั้งตามภาวะตลาด ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจให้กับนักลงทุน Tags : มนตรี ศรไพศาล • กิมเอ็ง • ตลาดหุ้น • วอลุ่มซื้อขาย