เรารู้ว่ายังมีอีกหลายล้านคนบนโลกออนไลน์ที่ยังเปลี่ยวเหงา สังเกตได้จากจำนวนการค้นหา “วิธีใช้แอพ Tinder” แล้วคลิกมายังบทความที่ผมเคยเขียนถึงแอพนี้เมื่อปีกลาย (รู้จัก Tinder - แอพคนเหงาขอปัดขวา มองหารักแท้) โอกาสนี้จึงขอเล่าถึงแอพหาคู่ Tinder ในมิติของวิธีใช้งาน พร้อมทั้งเสนอข้อสังเกตจากที่เคยใช้มาระยะหนึ่ง ในฐานะผู้ใช้เพศชายมองเพศหญิง ว่าตั้งค่าแบบไหน ใส่รายละเอียดแบบใดถึงจะน่าสนใจ ซึ่งอย่างหลังเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ปิดท้ายด้วยกรณีศึกษาจากคู่ที่พบกันในแอพนี้ครับ จะเล่น Tinder ต้องมีอะไรบ้าง กล่าวให้สั้น แอพ Tinder คือแอพหาความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามที่อยู่รอบตัวในพื้นที่ เมื่อเจอใครที่ผ่านมา ปัดขวาคือกดชอบ ปัดซ้ายคือไม่ชอบ ถ้าผู้ใช้ทั้งสองคน “ชอบ” ด้วยกัน ระบบก็จะจับคู่ให้ และได้เปิดบทสนทนากัน สานต่อได้ตามสะดวก กลไกของ Tinder เริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวก่อน โดยดึงข้อมูลจากบัญชี Facebook ที่ผูกกันอยู่มาเป็นข้อมูลของผู้ใช้บนแอพนี้ สามารถเลือกภาพตัวเองได้ 6 ภาพ พิมพ์ข้อความแนะนำตัวได้ 500 ตัวอักษร และสามารถเชื่อมต่อกับบัญชี Instagram ให้เข้าถึงภาพต่างๆ เพิ่มเติมได้ด้วย ดังนั้นสิ่งที่ต้องมี คือ: สมาร์ทโฟนที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต เปิด GPS เพื่อความแม่นยำในการระบุตำแหน่ง แน่นอน ต้องมีแอพ Tinder ที่ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งบน iOS และ Android ครับ บัญชี Facebook ที่ระบุข้อมูลของผู้ใช้ ถ้ามีการระบุหน้าที่การงาน การศึกษา จะทำให้มีโอกาสเจอคนในแวดวงเดียวกันมากขึ้น ถ้าในบัญชีดังกล่าวมีภาพประจำตัวที่จะใช้แล้วก็ไม่ต้องหาภาพเพิ่ม แต่ถ้าอยากให้โปรไฟล์ในที่นี้ดูดี ก็สามารถหาภาพประจำตัวมาอัพโหลดเพิ่มได้เช่นกัน ถ้อยคำบรรยายตัวเอง หลายคนเลือกจะบอกว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ถ้าอยากรู้จักชาวต่างชาติ ก็ให้ใช้ภาษาอังกฤษไว้ จะเปิดเผยตัวตนมากน้อยก็เอาตามชอบ เมื่อทุกอย่างครบแล้ว ก็มาเริ่ม “ปัดขวาหารักแท้” กันได้เลย เปิดแอพ Tinder ขึ้นมา ให้เวลาแอพสแกนหาผู้ใช้รายอื่นซึ่งเลือกได้ว่าสนใจเพศไหน (เพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม) อายุขอบเขตเท่าไร (18-55 ปีขึ้นไป) ในรัศมีเท่าไร (สูงสุด 161 กิโลเมตร) จากนั้นแอพจะเรียงผู้คนในลักษณะการ์ด ให้ผู้ใช้ปัดซ้ายหรือขวาได้ตามสะดวก จอซ้ายคือผู้ใช้อีกฝั่งที่เราสามารถปัดซ้าย ขวา ถ้า match กัน จะมาอยู่ในอีกหน้าจอ ถ้ายังไม่ได้เริ่มคุยก็จะเป็นรายชื่อด้านบน ส่วนด้านล่างจะเป็นการสนทนาที่เริ่มไปแล้ว ขออนุญาตให้เกียรติผู้ใช้ในจอตัวอย่างด้วยการปกปิดอัตลักษณ์นะครับ และถ้าหลงใหลใครสักคนหนึ่งจริงๆ มีปุ่ม Super Like สีน้ำเงิน ที่ถ้าเรากดปุ่มนี้ให้ใคร ก็จะไปขึ้นบอกที่อีกฝั่งว่าคุณสนใจเขาหรือเธอคนนี้จริงๆ สำหรับผู้ใช้แบบฟรีจะใช้ปุ่มนี้ได้วันละครั้ง ถ้าจังหวะที่คนที่เราปัดขวานั้น เขาหรือเธอก็ปัดขวาเหมือนกัน เราก็จะได้ match (จับคู่) กัน และเข้าไปแชทกันแบบสองต่อสองในอีกหน้าต่างหนึ่ง ส่งภาพ GIF หากันได้ด้วย ซึ่งจะรวมผู้คนที่เรา match ไว้ ในกรณีสวย-หล่อเลือกได้ ถ้าไม่ชอบก็สามารถกด unmatch ได้เช่นกัน กลไกหลักๆ มีเท่านี้ ถูกใจสายเปย์ เสียเงินเพิ่มเป็น Tinder Plus จริงอยู่ที่ Tinder ใช้งานได้ฟรี แต่ถ้าเลือกเสียเงินเป็นรายเดือน ก็จะได้เป็นผู้ใช้กลุ่ม Tinder Plus ซึ่งสิทธิ Tinder Plus อยู่ที่ประมาณ 300 บาทต่อเดือนครับ ถ้าจริงจังก็ถือว่าคุ้ม เอกสิทธิ์เฉพาะหลายอย่าง ทั้ง สามารถเลือกหาคนตำแหน่งที่ต่างๆ ที่ใดก็ได้บนโลก เลือกตำแหน่งที่จะไปได้ทันที ปัดขวาได้ไม่จำกัด จากเดิมที่มีการจำกัดจำนวนแต่ไม่ระบุว่าเท่าไร ซึ่งจะต้องรอกว่า 12 ชั่วโมงถึงจะใช้ได้อีกครั้ง Super Like ได้ 5 ครั้งต่อวัน ซึ่ง Tinder บอกว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสการได้คู่ถึง 3 เท่า ปกปิดอายุของผู้ใช้ ได้ ย้อนกลับไปเปลี่ยนการปัดซ้าย-ขวาของคนก่อนหน้า (ปุ่ม undo สีเหลือง) ได้ จากปกติปัดแล้วผ่านไปเลย ปิดโฆษณาได้ ช่วงหลังๆ ตอนใช้แบบฟรีไม่ค่อยเห็นมากวนใจเท่าไรนัก Tinder Plus from Tinder on Vimeo. วิดีโอว่าด้วย Tinder Plus ที่ทำอะไรได้หลายอย่าง สร้างโอกาสให้สุภาพสตรีท่านนี้ได้เจอคนหลากหลาย Tinder Plus เปิดทางให้ผู้ใช้เลือกสถานที่ที่จะไปปัดซ้าย-ขวาได้ทันที พร้อมจำตำแหน่งที่เคยไปได้ด้วย เคล็ดลับทำตัวเองให้น่าสนใจ เล่น Tinder ยังไงให้ไม่ “นก” (นกเป็นภาษาโลกออนไลน์ของกลุ่มเพศทางเลือก ที่แปลว่า อด แห้ว หลุดมือ แต่ก็เริ่มใช้กันทั่วไปแล้ว) แก่นสารการใช้แอพ Tinder จริงๆ ไม่ยากเลย แนวคิดคือเมื่อสองคนชอบพอกันในแวบสัมผัสแรกก็จะได้คุยกัน แต่การที่ทำให้อีกฝ่ายประทับใจ ก็คงไม่ต่างอะไรกับการพัฒนาบุคลิกภาพให้น่าสนใจทั้งในเชิงรูปภาพและสำนวนการบรรยายตัวเองครับ จากการสังเกตพบว่าผู้ใช้บางรายมีเป้าประสงค์ในการใช้ Tinder เพื่อหาความสัมพันธ์ทางเพศก็อาจแสดงอัตลักษณ์ยั่วกามารมณ์เพศตรงข้ามให้พุ่งพล่าน บ้างก็มีเป้าหมายว่าอยากจับฝรั่ง (มีจริงๆ) หรือถ้ายังไม่ไปถึงจุดนั้นก็อาจระบุแบบสวยๆ ว่าไม่ต้องการ hook up หรือ friend with benefits ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน หรืออีกแบบมีการทิ้ง LINE ID หรือ Instagram ให้ตามต่อก็มี และเท่าที่ลองไปส่องโปรไฟล์ของสุภาพสตรีประเทศอื่น บางคนก็จะบอกราศี ส่วนสูง หรือผลทดสอบทางจิตวิทยาที่ว่าเป็นพวก INFJ, ENTJ, EDFJ เป็นต้น (เคล็ดลับอาจไม่ลับ: แม้ไม่ได้ match กัน แต่เราสามารถนำชื่อผู้ใช้ที่ปรากฏใน Tinder มักจะเป็นชื่อเดียวกับบัญชีผู้ใช้บน Facebook ไปค้นหาทีหลังได้จากการนับจำนวน Mutual Friends, เพจที่กดติดตามเหมือนกัน หรือสถาบัน, ที่ทำงาน อันนี้เป็นเคล็ดลับที่เคยทดลองหา แล้วเจอด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าตระหนักสำหรับใครที่หวงแหนสิทธิส่วนบุคคลบนโลกออนไลน์) มีบทความต่างประเทศชิ้นหนึ่ง หรืออีกที่ เล่าถึงเคล็ดลับการสร้างโปรไฟล์ใน Tinder ให้น่าสนใจสำหรับสุภาพบุรุษ มีเหตุผลรองรับน่าสนใจมาก ขอสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้ ใช้ภาพเดี่ยว เลี่ยงภาพหมู่ ให้ดูมีความมั่นใจ เลี่ยงการใช้ภาพหมู่ที่อาจดึงดูดความสนใจจากสายตา โชว์บุคลิกภาพส่วนตัวกับกิจกรรมที่ตนสนใจ ภาพแรกสำคัญมาก เพราะ 1 ภาพแรกนั้นจะตัดสินว่าผู้ใช้อีกฝ่ายจะปัดซ้ายหรือขวา หรือกดเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติม ถึงขั้นท้าว่าให้ลองนับจำนวน match ที่เกิดขึ้นจากใช้ภาพแรกเป็นภาพโปรไฟล์ ลองปัดขวาแบบไม่เลือกหน้า 100 คนแล้วมาเปรียบเทียบกัน บรรยายตัวเองให้น่าสนใจ แทนที่จะร่ายประวัติตัวเองเป็นเรียงความน่าเบื่อ บอกปัดว่าไม่ชอบคนแบบนั้นแบบนี้ ให้ลองคิดถ้อยคำ ข้อความที่น่าสนใจเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดการสนทนาต่อ (ภาษาการตลาดเรียกว่ามี call to action หลังจากอ่านข้อความนี้ของคุณ) เริ่มประโยคด้วยคำว่า “สวัสดี” ถือว่าธรรมดาไป บทความดังกล่าวชี้ว่าคุณสามารถสร้างความประทับใจได้แค่หนเดียว ควรเปิดเกมด้วยคำพูดที่ดีกว่าคำว่า hi หรือ hello ซึ่งพบกว่าการเปิดเกมรุกด้วยการถามคำถามจะมีโอกาสได้คำตอบที่ดีกว่า อาจหาเรื่องคุยจากภาพโปรไฟล์หรือจากข้อความบรรยายส่วนตัว หากส่งข้อความไปแล้วไม่มีการตอบ ให้ทิ้งระยะอย่างน้อยสองวัน ก่อนที่จะส่งข้อความไปทักใหม่ อันนี้ขึ้นกับแต่ละกรณีด้วย ลองเปลี่ยนมุกทัก แต่เน้นย้ำว่าต้องเป็นเรื่องเชิงบวก ถ้าคุยกันแล้วถูกคอ รีบสานต่อนอกแอพ Tinder เมื่อได้รับความไว้วางใจในระดับหนึ่ง จงทำตัวเองให้อยู่เหนือผู้ใช้ที่ match อยู่รายอื่นๆ ในลิสต์ของเธอ ด้วยการสานต่อการพูดคุยในช่องทางอื่นที่ส่วนตัวและใช้งานบ่อยกว่า หลีกเลี่ยงการขอเบอร์ แต่ควรเป็นการให้เบอร์ในเชิงไม่กดดัน (อาจเป็นการเสนอช่วยเหลืออะไรบางอย่าง) ซึ่งบทความต้นทางระบุว่าได้ผลดีกว่า อันนี้เป็นอีกหนึ่งคำบรรยายตัวเองของสุภาพสตรีรายหนึ่งที่เปี่ยมความคิดสร้างสรรค์จนต้องขอแคปเจอร์ภาพมาเล่า ตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างผมมาก (แต่ไม่ match) เสียงจากผู้ใช้จริง จากการสอบถามรุ่นพี่คู่หนึ่งที่ประสบความสำเร็จจากแอพนี้ (ได้เป็นแฟนกันและเพิ่งครบรอบ 1 ปีไปหมาดๆ) ว่าทำอย่างไร ฝ่ายชายตอบเพียงสั้นๆ ว่า “เป็นตัวของตัวเอง” และเหตุผลของฝ่ายหญิงก็เป็นปัจเจกมาก คือที่ปัดขวาชายคนนี้เพราะเขาเป็นคนเดียวที่ลงรูปแบบไม่เห็นหน้าชัดๆ เท่านั้น และเธอยังกล่าวเสริมอีกว่า “ลองโพสต์รูปสวยๆ สว่างๆ เป็นแนวของตัวเอง ใครชอบทำกิจกรรมอะไรก็แสดงมาแบบนั้น เช่น ปีนผา ดำน้ำ ถ่ายรูป ฯลฯ แต่งกายให้ดูสะอาดสะอ้าน รูปที่ให้อัพโหลดขึ้นไปลองใช้เป็น 1. รูปหน้าตัวเองชัดๆ 2. รูปตัวเองจากระยะไกล 3. รูปแอคทิวิตี้ที่เป็นตัวของตัวเอง รูปกิจกรรม ทำงาน อย่าสก๊อย อย่าดัน อย่าจงใจ” ส่วนตัวมองว่าความท้าทายคือการสร้างปฏิสัมพันธ์หลังจาก match แล้ว ว่าจะเปิดเกมสร้างปฏิสัมพันธ์จากอะไรได้บ้าง ซึ่งพบว่าการเปิดบทสนทนาต่อยอดจากข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามที่มีจะช่วยได้มากครับ แต่โมเมนตัมของบทสนทนาถือว่าสำคัญมากเช่นกัน หากไม่มีการตอบสนองนานเกินไปก็จะทำให้บทสนทนากร่อยลง ดังนั้น ควรฝึกฝนจุดนี้ไว้ด้วยครับ ข้อมูลที่ทำให้ใจชื้น: Tinder โชว์ตัวเลข ว่าแต่ละวันมีการปัดซ้ายขวาในแอพถึง 1.4 พันล้านครั้ง มีคู่ (match) เกิดขึ้นกว่า 26 ล้านครั้ง มีจำนวนคู่รวมตลอดที่ทำมาถึงหมื่นล้านครั้ง ใน 196 ประเทศแล้ว ...ก็ขอให้คุณเป็นอีกหนึ่งคู่ในจำนวนนี้นะครับ Topics: TinderLove