"จีเอฟเค"ระบุความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติฟื้นหนุนตลาดวิจัยครึ่งปีหลัง จ่อประมูลจัดเรตติ้งทีวี ภาวะซบเซาของภาคธุรกิจในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ส่งผล "ธุรกิจวิจัยตลาด" ชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามสัญญาณบวกในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงการที่เคยถูกระงับขององค์กรภาคธุรกิจและภาครัฐกลับมาเดินหน้าทำให้แนวโน้มความต้องการ "วิจัยตลาด" มีมากขึ้นด้วย นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอฟเค มาร์เก็ตไวส์ จำกัด กลุ่มบริษัทในเครือจีเอฟเค ผู้ให้บริการวิจัยการตลาดครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจวิจัยตลาดเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น สะท้อนจากปริมาณงานจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. เป็นต้นมา ทั้งนี้ เป็นผลจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติฟื้นตัวดีขึ้น โดยมีหลายประเทศติดต่อขอข้อมูลเกี่ยวกับตลาดในประเทศไทยเพื่อเตรียมเข้ามาลงทุนมากขึ้น เช่น เกาหลี และญี่ปุ่น ทำให้รายได้ของ "สถานการณ์ขณะนี้ ถือว่าดีกว่าช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าได้ยกเลิกคำสั่งงานกันมากจากปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ ธุรกิจวิจัยการตลาดมีความยืดหยุ่นสูงคล้ายกับธุรกิจการท่องเที่ยวทำให้ธุรกิจของบริษัทกลับสู่สภาพปกติได้อย่างรวดเร็ว" รัฐ-เอกชนฟื้นปลุกวิจัยตลาด ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัท มีลูกค้าที่เป็นกลุ่มสตาร์ธิจิค (Strategic) ได้คัดเลือกให้บริษัทเป็นผู้ดำเนินงานโครงการสำคัญของ โตโยต้า เป๊ปซี่โค เซอร์วิส เอเซีย เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง เอส ซี จี กรุ๊ป สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ "จำนวนของ RFQs (Request for proposals) ที่สูง โครงการที่ถูกระงับชั่วคราวได้รับอนุมัติให้ดำเนินงานต่อ ส่วนลูกค้าต่างประเทศ บริษัทได้รับโปรเจคจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ส่งผลให้รายได้ของ จีเอฟเค มาร์เก็ตไว้ส์ เฉพาะ ก.ค. เดือนเดียวเท่ากับรายได้ในช่วงหกเดือนแรกของปี" สำหรับกลุ่มธุรกิจที่เป็นลูกค้าของบริษัท มีสัดส่วนจากกลุ่มคอนซูเมอร์ หรือ สินค้าอุปโภค-บริโภค 30% กลุ่มออโต้ หรือ ยานยนต์ 25% กลุ่มงานสังคมและสาธารณะ 15% กลุ่มมีเดียและบันเทิง 10% อื่นๆ เช่น ค้าปลีก เทคโนโลยี 10% สุขภาพ 5% และบริการทางการเงิน 5% กลยุทธ์การทำตลาดช่วงไตรมาส 3-4 นี้ บริษัทจะมุ่งเจาะลูกค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภค และยานยนต์มากขึ้น รวมถึงกลุ่มสุขภาพ มีเดีย และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในไทย โดยจะมีนวัตกรรมและเครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ประเมินและวัดประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์การนำเสนอข้อมูลด้านแบรนด์สินค้าและประสบการณ์การใช้สินค้าของผู้บริโภค รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ เน้นนวัตกรรมที่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ให้แก่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตลาดวิจัยไทยยัง 'โตต่ำ' อย่างไรก็ดี ประเมินว่าภาพรวมธุรกิจวิจัยด้านการตลาดมีอัตราการเติบโตไม่เกิน 5% ในปีนี้ จากปกติเติบโตเฉลี่ย 10% โดยปี 2556 ตลาดเติบโต 7.62% มูลค่าตลาดรวมประมาณ 166 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ตลาดวิจัยไทยอยู่ในอันดับที่ 5 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ จีเอฟเคฯ มีอัตราการเติบโต 22% ในปีก่อน และอยู่ในอันดับที่ 4 ของตลาดรวม สำหรับ มูลค่าตลาดรวมงานวิจัยในไทยมีจำนวนกว่า 50 บริษัท แบ่งเป็น บริษัทต่างชาติ จำนวน 6 บริษัท มีส่วนแบ่งในตลาด 65% และบริษัทไทยและบริษัทร่วมทุนต่างๆ กว่า 44 บริษัท มีส่วนแบ่งตลาด 35% นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลการสำรวจมูลค่าการใช้จ่ายการวิจัยการตลาดต่อประชากรทั่วโลก พบว่า ไทยยังใช้งบด้านวิจัยและพัฒนา ค่อนข้างน้อย อยู่ที่ 2.39 ดอลลาร์ต่อคน สวีเดน อยู่ที่ 18.44 ดอลลาร์ต่อคน เยอรมนี อยู่ที่ 40.54 ดอลลาร์ต่อคน ส่วนประเทศที่มีการใช้งบด้านการวิจัยและพัฒนามากที่สุด คือ อังกฤษ อยู่ที่ 80.2 ดอลลาร์ต่อคน งบวิจัยและพัฒนายังสะท้อนถึงภาพรวมเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ โดยประเทศพัฒนาแล้วจะใช้เงินวิจัยต่อประชากรค่อนข้างมาก หวังคว้าประมูลจัดเรตติ้งทีวี นางดารณี กล่าวต่อว่า บริษัทสนใจร่วมประมูลการจัดทำสำรวจความนิยมของผู้ชม หรือ เรตติ้งรายการโทรทัศน์ โดยบริษัทได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำเรตติ้งดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน ซึ่งจะต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้านในการเข้าร่วมประมูลโดยเฉพาะหลักเกณฑ์ข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง หรือ ทีโออาร์ "บริษัทได้เข้าร่วมประชุมและนำเสนอข้อเสนอร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อวางแผนและเตรียมพร้อมกับหลักเกณฑ์ทีโออาร์ โดยต้องดูว่า ทีโออาร์ และข้อกำหนดคุณลักษณะของบริษัทที่จะเข้าไปประมูลทำเรตติ้งทีวีเป็นอย่างไร" ที่ผ่านมา จีเอฟเค กรุ๊ป มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ในการจัดทำเรตติ้งรายการทีวีค่อนข้างมาก ล่าสุด ชนะการประมูลในบราซิล เมื่อปี 2556 โดยจะเริ่มจัดทำการวัดเรตติ้งในปีนี้ ในปีนี้ จีเอฟเค กรุ๊ป ยังชนะการประมูลงานจัดทำเรตติ้งทีวีในซาอุดีอาระเบีย เริ่มการสำรวจเรตติ้งในปีหน้า เชื่อว่าบริษัทจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัทสำรวจเรตติ้งโทรทัศน์ในไทยเช่นกัน คาดใช้งบลงทุนเบื้องต้น 2-3 ล้านยูโร ในช่วง 1-2 ปีแรก และจะเพิ่มขึ้นเป็น 3-4 ล้านยูโรในปีถัดไป โดยจะลงทุนในด้านเครื่องและเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์-ฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการติดตั้งและสำรวจเรตติ้งจากกลุ่มตัวอย่างผู้ชม ในเชิงกลยุทธ์ บริษัทได้มีการรวมธุรกิจของจีเอฟเคในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท จีเอฟเค มาร์เก็ตไว้ส์ จำกัด และบริษัท จีเอฟเค รีเทล แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด เป็น One GfK ซึ่งงานวิจัยของทั้งสองบริษัทนั้นแตกต่างกัน โดย จีเอฟเค มาร์เก็ตไว้ส์ มุ่งเน้นไปที่ Consumer Experiences หรือ Customized Research ในขณะ จีเอฟเค รีเทล แอนด์ เทคโนโลยี มุ่งเน้นไปที่ Consumer Choices หรือ Retail Audits โดยฐานลูกค้าปัจจุบันของทั้งสองบริษัทนี้แตกต่างกัน เมื่อรวมบริษัทแล้ว โอกาสในการร่วมมือกันและแบ่งปันความรู้สำหรับลูกค้าก็จะมากขึ้น สามารถสร้างความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และทำให้เพิ่มขีดความสามารถในเชิงแข่งขันด้านธุรกิจให้แก่บริษัท Tags : วิจัยตลาด • ซบเซา • เรตติ้งทีวี • จีเอฟเค มาร์เก็ตไวส์ • ความเชื่อมั่น • ดารณี เจริญรัชต์ภาคย์