ตลท.คาดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ น.ส.ปิญาภรณ์ สดศรีวิบูลย์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองการลงทุนต่อตลาดหุ้นไทยดีขึ้น ส่งผลให้เริ่มซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยในเดือนก.ค.นี้ และเชื่อว่าเงินลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มไหลเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง เพราะตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การลงทุนภาครัฐ นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอื่น พบว่าตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในระดับต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เห็นได้จากคาดการณ์ราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (ฟอร์เวิร์ดพีอี) ล่าสุด แม้ว่าจะปรับขึ้นไปอยู่ระดับ 14.4 เท่า แต่ยังถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่สูงกว่า 20 เท่า ขณะที่มาเลเซียอยู่ที่ระดับ 17 เท่า เป็นต้น “ นักลงทุนต่างชาติ มีความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทยมากขึ้น จึงเริ่มเห็นการซื้อสุทธิ ทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติกลับมาอยู่ในระดับ 4.4 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงช่วงก่อนที่จะมีปัญหาทางการเมืองและการลดวงเงินคิวอีของสหรัฐ หลังจากที่เคยลดลงต่ำสุดในช่วงเดือนม.ค.ที่สัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ระดับ 3.6 ล้านล้านบาท” เธอกล่าวต่อว่า จากข้อมูล ณ สิ้นเดือนมิ.ย. พบว่านักลงทุนต่างชาติเพิ่มการถือครองหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (MAI) อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการถือครองรวม 1.95 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนก่อนหน้า เพราะเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนไทย นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ บริการ และอุตสาหกรรม มีการปรับลดการถือครองในกลุ่มเกษตร สินค้าอุปโภค บริโภค กลุ่มพลังงาน และเทคโนโลยี แต่สัดส่วนที่ปรับเปลี่ยนไม่มาก นายเกียรติพงษ์ อริยปรัชญา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลท. เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง จากการเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้น และบริษัทจดทะเบียนไทย ทำให้มีโอกาสในการดึงเม็ดเงินลงทุนของต่างประเทศเข้ามาได้ อย่างไรก็ตามยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จึงต้องติดตามดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และตัวเลขการว่างงานของสหรัฐ นอกจากนี้จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ อาจทำให้นักลงทุนบางส่วนหันไปลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้น เขากล่าวต่อว่า ตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เหมือนในช่วงก่อนที่จะมีปัญหาทางการเมืองและการลดคิวอีของสหรัฐทั้งดัชนี และปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (วอลุ่ม) ซึ่งล่าสุดมาอยู่ในระดับ 4.8 หมื่นล้านบาทต่อวัน เทียบกับช่วงไตรมาส 3 ปีก่อนที่วอลุ่มเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 4.4 หมื่นล้านบาท สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ดัชนีปิดที่ 1,485.75 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 14.4% จากสิ้นปี 2556 และเพิ่มขึ้น 4.95% เมื่อเทียบกับสิ้นเดือนพ.ค. เป็นการปรับขึ้นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม แต่กลุ่มที่ปรับขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า คือกลุ่มธุรกิจการเงิน ขณะที่วอลุ่มการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันครึ่งปีแรกของปีนี้ อยู่ที่ระดับ 3.5 หมื่นล้านบาท เฉพาะไตรมาส 2 อยู่ที่ 4.06 หมื่นล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้น 31.9% จากไตรมาสก่อนหน้า และเฉพาะเดือนมิ.ย. วอลุ่มการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.8 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 17.8% จากเดือนก่อนหน้า สำหรับการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในช่วงไตรมาส 2 ยังขายสุทธิกว่า 2 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4.1 หมื่นล้านบาท ส่วนการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ 6.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 2.5 เท่าจากไตรมาสก่อนหน้า โดยในตลาดแรกมีมูลค่าระดมทุน 4.9หมื่นล้านบาท จากบริษัทจดทะเบียน 9 บริษัท และ 3 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ตลาดรองมีการระดมทุน 1.3 หมื่นล้านบาท ทำให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 มีมูลค่าระดมทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 8 หมื่นล้านบาท ลดลง 53.2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน Tags : ตลาดหลักทรัพย์ • ตลท. • นักลงทุนต่างชาติ • การลงทุน