นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตส.ส.ปชป.และอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความ ในเฟซบุ๊ก ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ วันที่ 15 กรกฎาคม เช็กอินขึ้นเครื่องที่มักกะสันวันละ 10 คน แต่ รฟท. ต้องจ่ายเดือนละกว่า5ล้าน การก่อสร้างแอร์พอร์ตลิงก์หรือรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ กับตัวเมืองบริเวณสถานีรถไฟมักกะสันระยะทาง28.5 กิโลเมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่สนามบิน มีทางเลือกในการเดินทางเข้าออกสนามบินได้เพิ่มขึ้น เป็นการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชน ส่งผลให้การใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลดน้อยลง การเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งมลภาวะก็จะลดตามลงด้วย แอร์พอร์ตลิงก์เป็นโครงการของ รฟท. ประกอบด้วย 3 ระบบ พูดได้ว่ามี 3 ระบบใน 1 โครงการ ระบบที่หนึ่ง คือ รถไฟฟ้าด่วนเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิกับสถานีมักกะสัน มีเป้าหมายหลักในการขนผู้โดยสารเข้าออกสนามบิน โดยจะจอดบางสถานี ทำให้ใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้น ระบบที่สอง คือ รถไฟฟ้าธรรมดาเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิกับสถานีพญาไท มีเป้าหมายให้บริการผู้ที่อยู่อาศัยสองข้างทาง เพื่อเดินทางเข้าทำงาน หรือเรียนหนังสือในตัวเมือง โดยจะจอดทุกสถานี ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที ระบบที่สาม คือ สถานีเช็กอินการเดินทางทางอากาศในเมือง (City Air Terminal) ซึ่งอยู่ที่บริเวณสถานีรถไฟมักกะสัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ที่ต้องการเช็กอินในตัวเมืองไม่จำเป็นต้องขนสัมภาระไปถึงสนามบิน เมื่อเช็กอินเสร็จแล้วก็สามารถทำกิจธุระได้ ก่อนเดินทางไปสนามบิน ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าเวลานี้มีผู้โดยสารใช้บริการเช็กอินที่มักกะสันน้อยมาก น้อยจริงๆคือเฉลี่ยวันละ 10 คนเท่านั้น ผู้โดยสาร 10 คน กระเป๋า 10 ใบ แต่ รฟท. ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงถึงเดือนละ 5.27 ล้านบาท (ตัวเลขนี้เป็นราคาที่ รฟท. ได้ต่อรองลงจากราคาเดิมที่ต้องจ่ายถึงกว่าเดือนละ 7 ล้านบาท) ประกอบด้วย 1. ค่าเช่าระบบเช็กอินเดือนละ 1.6 ล้านบาท และ 2. ค่าขนกระเป๋าไปสนามบินสุวรรณภูมิเดือนละ 3.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นค่าใช่จ่ายต่อผู้โดยสาร 1 คน สำหรับการเช็กอิน 1 ครั้ง เท่ากับ 17,567 บาท แพงมากครับ! ผมขอเสนอให้ รฟท. ยกเลิกการให้บริการเช็กอินที่มักกะสัน เพราะไม่เป็นที่นิยม และเพื่อลดค่าใช้จ่ายของ รฟท. คุณเห็นด้วยมั้ยครับ