ธ.ก.ส. ปล่อยกู้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย 16,582.52 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเงินเพิ่มค่าอ้อย นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงนามกับนายอาทิตย์ วุฒิคะโร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อสนับสนุนเงินทุน โดยให้เงินกู้แก่กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อช่วยเหลือเงินเพิ่มค่าอ้อยแก่ชาวไร่อ้อย ฤดูการผลิตปี 2556/2557 จำนวน 16,582.52 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.25 ต่อปี เพื่อนำไปจ่ายเงินเพิ่มค่าอ้อยให้กับชาวไร่อ้อยในอัตราตันละ 160 บาท รวม 103.67 ล้านตัน โดย ธ.ก.ส. จะจ่ายตรงให้กับชาวไร่อ้อยทุกตันอ้อยที่ส่งเข้าหีบให้กับโรงงานน้ำตาลหรือตามปริมาณอ้อยที่เข้าหีบจริง ส่วนการชำระหนี้เงินกู้จำนวนนี้มีกำหนดชำระคืน ธ.ก.ส. ภายใน 17 เดือน ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ให้การสนับสนุนกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกู้เงิน เพื่อนำไปรักษาเสถียรภาพราคาในระบบอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา รวม 11 ครั้ง สามารถช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยโดยเฉลี่ยประมาณปีละ 150,000 ราย นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังร่วมกับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกำหนดแนวทางการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรเพื่อเพิ่มคุณภาพและปริมาณผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น รวมถึงลดต้นทุนการผลิตเพื่อสร้างส่วนต่างรายได้หรือผลตอบแทนให้เพิ่มขึ้น ด้านนายอาทิตย์กล่าวว่า การจ่ายเงินเพิ่มค่าอ้อยให้กับชาวไร่อ้อยตันละ 160 บาท รวม 103.67 ล้านตัน จะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมนี้ และจะจ่ายได้ร้อยละ 99 ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม ทำให้ฤดูกาลผลิตปี 2556/2557 ชาวไร่อ้อยได้รับผลตอบแทนจากการปลูกอ้อยรวมตันละ 1,198.บาท จากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติราคาอ้อยขั้นต้นไว้ที่ตันละ 900 บาท ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส. แต่ค่าความหวานเฉลี่ยจริงสูงกว่าอยู่ที่ 12.5 ซี.ซี.เอส. ค่าความหวานทุก 1 ซี.ซี.เอส. ที่เพิ่มขึ้น เกษตรกรจะได้รับเงินเพิ่ม 54 บาท เกษตรกรจึงได้ราคาอ้อยที่ตันละ 1,038 บาท เมื่อรวมกับเงินค่าอ้อยอีกตันละ 160 บาท ปีนี้เกษตรกรจึงได้รับผลตอบแทนจากการปลูกอ้อยจริงถึงตันละ 1,198 บาท จากต้นทุนตันละ 1,129 บาท มีผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณร้อยละ 6 ส่วนปีที่ผ่านมาต้นทุนสูงกว่าที่ตันละ 1,196 บาท ชาวไร่อ้อยได้ผลตอบแทนจากการปลูกเท่ากับต้นทุนการผลิต Tags : ลักษณ์ วจนานวัช • ปล่อยกู้ • อ้อย • ธ.ก.ส.