(รายงาน) ถก"กรอ."นัดแรกพรุ่งนี้ เอกชนชง14ประเด็นเร่งด่วนฟื้นศก. วานนี้(14 ก.ค.) การประชุมของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กรอ.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย เตรียมเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พิจารณาแก้ปัญหาเศรษฐกิจใน 14 ประเด็น โดยจะมีการประชุมร่วมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) มีรายละเอียดดังนี้ นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธาน กกร. กล่าวว่า กรอ.ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นเวทีที่มีความสำคัญ สำหรับทั้งภาครัฐและเอกชนในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นเวทีให้ภาคเอกชน และภาครัฐร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมให้เจริญเติบโต สามารถแข่งขันได้อยางมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในการประชุม กรอ. ครั้งแรก ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) กกร.จะนำเสนอเรื่องสำคัญเร่งด่วน ที่มีความจำเป็นต้องเร่งรัดพิจารณาดำเนินการ 5 เรื่อง 14 ประเด็น ประกอบด้วย ด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 5 ประเด็น ด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม จำนวน 2 ประเด็น ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว จำนวน 2 ประเด็น ด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ จำนวน 3 ประเด็น และด้านการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ จำนวน 2 ประเด็น นอกจากนี้ นายบุญทักษ์ ยังกล่าวถึงตัวอย่างประเด็นข้อเสนอ สำคัญๆ ซึ่งจะนำเสนอที่ประชุม กรอ.เป็นเรื่องเร่งด่วน ได้แก่ การขยายเวลามาตรการสำหรับเขตเศรษฐกิจเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะมาตรการสินเชื่อผ่อนปรน (Soft Loan) ที่จะสิ้นสุดในเดือนธ.ค.ที่จะถึงนี้นั้น ภาคเอกชนต้องการให้ขยายมาตรการฯ นี้ออกไปอีก 3 ปี (ม.ค.2558-ธ.ค.2560) เพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการและง่ายต่อการตัดสินใจของนักลงทุน ปรับเกณฑ์ออกวีซ่า-ใบอนุญาตทำงาน อีกประเด็นหนึ่ง คือ การปรับปรุงกระบวนการหลักเกณฑ์การออกวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน เพื่อให้เกิดความสะดวกในกระบวนการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน และควรแยกแยะระหว่างนักธุรกิจและแรงงานต่างด้าว (ไร้ฝีมือ) ในการรายงานตัว เป็นต้น ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย และส่งเสริมความเชื่อมั่น รวมทั้งความน่าลงทุนในประเทศไทย และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนทั้งด้านการทำธุรกิจ การเดินทาง และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ กกร.จะเสนอขอให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับจีนและไต้หวัน เป็นระยะเวลา 12 เดือนอีกด้วย ขยายระดับการค้ำประกันช่วยเอสเอ็มอี ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีนั้น กกร.จะเสนอให้มีการขยายระดับการค้ำประกันความสูญเสียของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยขอให้จัดสรรงบประมาณที่จำเป็นให้แก่ บสย.เพื่อสนับสนุนค่าธรรมเนียมที่ บสย.คิดจากผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มระดับการค้ำประกันจากเดิมค้ำประกันความสูญเสียจากระดับสูงสุดที่ 18% เป็น 50% เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการเร่งรัดบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศ นอกจากนี้ กกร. ได้ดำเนินมาตรการสำคัญโดยต่อเนื่อง เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สภาธุรกิจไทย-รัสเซีย ได้นำคณะผู้บริหารและนักธุรกิจไทย กว่า 25 ราย เดินทางเยือนรัสเซีย ระหว่างวันที่ 9-13 ก.ค. นี้ กกร.ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ ในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเวทีความร่วมมือเอเชียตะวันออกและละตินอเมริกา (FEALAC) วันที่ 20 ส.ค.นี้ ซึ่งจะมีนักธุรกิจทั้งสองภูมิภาค ประมาณ 100-200 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อหาลู่ทางขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ระหว่างกัน และยังเป็นโอกาสดีของประเทศไทย ที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจต่อประเทศไทย กกร.มั่นใจศก.ผ่านจุดต่ำสุด ทั้งนี้ กกร.ได้มีการประชุมสรุปสภาวะเศรษฐกิจไทย และแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและมีแนวโน้มปรับดีขึ้น ตามสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายลงภายใต้การบริหารงานของ คสช. ที่สำคัญคือ การดำเนินนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญพร้อมกับวางโรดแมพด้านเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นผู้บริโภค นักลงทุนชาวไทยและต่างชาติ ตลอดจนนักท่องเที่ยวกลับคืน โดยการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ค. ควบคู่กับภาครัฐมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบค้างท่อและเร่งจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ให้เสร็จสิ้นก่อน ก.ย.นี้ เมื่อผนวกกับการส่งออกที่จะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นตามความชัดเจนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าหลัก ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มขยายตัวได้ 4.2% ทำให้ขยายตัวรวมทั้งปี 2557 อยู่ที่ 2.0% ก่อนจะกลับไปขยายตัวในระดับศักยภาพได้ในปี 2558 ที่ช่วงระหว่าง 3.5-4.5% Tags : สมาคมธนาคารไทย • บุญทักษ์ หวังเจริญ • กรอ. • คสช. • เอกชน • ฟื้นเศรษฐกิจ