วีซ่าเผยการเมืองกระทบยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรคาดปีนี้โตไม่ถึง10%โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวที่ลดลง นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการวีซ่าอินเตอร์เนชั่นเนล ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองในปีนี้ทำให้คาดว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในปีนี้จะทรงตัว และต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวสักพัก โดยคาดว่าตลอดทั้งปีจะเติบโตได้ต่ำกว่า 10% จากช่วงไตรมาสแรกที่เติบโตได้ 9.2% แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองที่นิ่งขึ้นทำให้เกิดความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย แต่ในช่วงหน้าฝนจะเป็นฤดูกาลที่มีการจับจ่ายใช้สอยไม่มากนัก เทียบกับปีที่ผ่านมายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตได้สูงเกือบ 20% แต่เมื่อรวมทั้งปีแล้วกลับโตเหลือเพียง 15% ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยเคยมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในระดับต่ำกว่า 10% มาแล้ว คือในปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีความวุ่นวายทางการเมืองเช่นกัน นายสมบูรณ์ กล่าวว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรที่ลดลงหลักๆ มาจากภาคการท่องเที่ยวโดยสัดส่วนการใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดท่องเที่ยวคิดเป็น 20% นอกจากการใช้จ่ายของคนในประเทศแล้ว การใช้จ่ายผ่านบัตรที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยลดลง เนื่องจากปัญหาทางการเมืองที่หลายประเทศยังออกประกาศเตือนการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอยู่แม้ว่าในขณะนี้จะไม่มีการชุมนุมทางการเมืองแล้ว โดยจะเห็นได้ว่ายอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้จ่ายผ่านบัตรในประเทศไทยปีนี้น่าจะโตต่ำกว่า 5% โดยในไตรมาสแรกขยายตัวเพียง 3% เท่านั้น เทียบกับปีที่ผ่านมายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวประมาณ 9% โดยสัดส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเหล่านั้นผ่านบัตรของวีซ่าคิดเป็นวัดส่วน 12-15% ของการใช้จ่ายทั้งหมด “ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรชะลอตัว แต่หลังจากที่สภาวะการเมืองเริ่มนิ่ง ปริมาณการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวค่อย ๆ กระเตื้องขึ้น แต่ไม่ใช่ลักษณะของ V Shape เพราะหลายประเทศยังออกคำเตือนอยู่ ทำให้คาดว่ายอดจองห้องพักในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปีนี้ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ คงน้อยกว่าปีก่อนๆ แม้จะสูงกว่าช่วงครึ่งแรกของปีก็ตาม” นายสมบูรณ์ยังกล่าวว่า ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีจำนวนธุรกรรมเพื่อการชำระเงินผ่าน อีคอมเมิร์ซสูงขึ้น 49% จากปีก่อน เทียบกับการทำธุรกรรมเพื่อการชำระเงินที่ร้านค้าเพิ่มขึ้นถึง 10% และมีการชำระเงินในยอดเงินที่เล็กลงด้วย สะท้อนว่าแนวโน้มการชำระเงินในระบบดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามการใช้สมาร์ทโฟนและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นการจัดเก็บข้อมูลสำคัญของบัตรผ่านระบบคลาวด์ ซึ่งจะเป็นช่องทางใหม่ในการชำระเงิน และในปลายปีนี้วีซ่าจะเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถโอนเงินได้ด้วยการเชื่อมข้อมูลกับโซเชียลเน็ตเวิร์คอีกด้วย ส่วนการออกวีซ่าเพย์เวฟที่ใช้เทคโนโลยี NFC ที่ในขณะนี้มีธนาคารผู้ออกบัตร 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทยธนาคารไทยพาณิชย์ และเทสโก้คาร์ดเซอร์วิสเซส ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมามียอดการชำระเงินเพิ่มเป็น 2 เท่า โดยในสิ้นเดือนนี้จะมีธนาคารพาณิชย์อีก 2 แห่งเปิดให้บริการดังกล่าวด้วย Tags : สมบูรณ์ ครบธีรนนท์ • วีซ่า • การเมือง