ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 87/2557เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ ฉบับ ที่ 89 เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 87/2557 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ โดยที่พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2547 กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจเกี่ยวกับการดูแลความสงบเรียบร้อยในการควบคุมอาชญกรรม การจราจร การมีและใช้อาวุธปืน เป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ ในระบบการปฏิบัติงานและในการบังคับใช้กฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีประกาศ ดังต่อไปนี้ ข้อ1 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 5 ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพ.ร.บ.นี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่และออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมกับค่าทำการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่เกินอัตราตามบัญชีท้ายพ.ร.บ.นี้" ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา5 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา5 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพ.ร.บ.นี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่และออกกฎกระทรวงกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพ.ร.บ.นี้" ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งและวรรคสอง แห่งมาตรา6พ.ร.บ.อาวุธ เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่7)พ.ศ.2522และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 6 ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพ.ร.บ.นี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งนายทะเบียนและเจ้าหน้าที่อื่น และออกกฎกระทรวงในเรื่องต่อไปนี้ คือ (1)จำกัดชนิดและจำนวนอาวุธปืนของกระทรวงทบวงกรมอื่น นอกจากของราชการทหารและตำรวจหรือหน่วยราชการตามมาตรา 5 วรรคสอง (2)วางระเบียบการทะเบียน การขอและการออกใบอนุญาติ (3)กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมซึ่งต้องไม่เกินอัตราในบัญชีท้ายพ.ร.บ.นี้ (4)กิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพ.ร.บ.นี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับการออกกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่ง(1)มาตรา5 วรรคสองและตามมาตรา55 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมร่วมรักษาการตาม พ.ร.บ.นี้และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงร่วมกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย"ข้อ4 ให้บรรดากฎกระทรวง กฎระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามพ.ร.บ.ตามข้อ 1 ข้อ2 และข้อ 3ที่บังคับใช้อยู่ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับยังคงใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 14 ก.ค. 2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับ ที่ 89 เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เพื่อให้การแต่งตั้ง และโยกย้ายข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆเป็นไปตามระบบคุณธรรมและคำนึงถึงพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคล ตลอดจนประโยชน์ของทางราชการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีประกาศ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 เพื่อประโยชน์ในการแต่งตั้งโยกย้ายให้จัดลำดับอาวุโส ดังต่อไปนี้ (1) ผู้มียศสูงกว่า (ไม่รวมถึงยศที่ได้รับจากการแต่งตั้งเป็นกรณีพิเศษ)เป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า (2) ถ้ามียศเท่ากัน ให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับนั้นในกรมตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาตินานกว่า เป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า (3) ถ้าดำรงตำแหน่งตาม(2)นานเท่ากัน ให้ผู้ดำรงตำแหน่งระดับถัดลงไปนานกว่าตามลำดับจนถึงตำแหน่งระดับรองสารวัตร เป็นผู้มีอาวุโสน้อยกว่า ตำแหน่งถัดลงไปให้หมายรวมถึงตำแหน่งระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการอละสารวัตรใหญ่ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการตำรวจ พศ.2521 ด้วย (4)ถ้าดำรงตำแหน่งระดับถัดลงไปตาม(3)นานเท่ากัน ให้ผู้มีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งชั้นสัญญาบัตรนานกว่า เป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า(5) ถ้ามีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งชั้นสัญญาบัตรนานเท่ากันให้ผู้มีอายุมากกว่าเป็นผู้มีลำดับอาวุโสสูงกว่า สำหรับข้าราชการตำรวจที่ถูกประจำหรือสำรองราชการในระดับตำแหน่งใดให้ถือว่ายังคงดำรงคำแหน่งระดับนั่นตลอดระยะเวลาที่ประจำหรือสำรองราชการระยะเวลาการดำรงตำแหน่งหมายความรวมถึงระยะเวลาการปฏิบัติงานเป็นทวีคูณของข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการตามหลักเกณฑ์ การนับระยะเวลาการปฏิบัติงานเป็นทวีคูณ ของข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนใต้ตาม มติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2553 ในระดับตำแหน่งนั้นๆด้วย ข้อ 2การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งตามประกาศนี้ มิให้นำระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรวมตั้งแต่ระดับรองสารวัตรตามกฎ ก. ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรองสารวัตร ถึง จเรตำรวจแห่งชาติ และ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2549 มาบังคับใช้ทั้งนี้ จนกว่า จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎ ก.ตร.หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง