กลุ่มธุรกิจส่งออกอาหาร "ซีพีเอฟ-ทียูเอฟ" กำไรไตรมาส 1 พุ่งกว่า 100% และ 41% ตามลำดับ อานิสงส์ยอดขายโต ราคาผลิตภัณฑ์พุ่ง-เงินบาทอ่อนค่า นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟเปิดเผยว่า ไตรมาสแรกปีนี้มีกำไร 2,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีที่ผ่านมา 100% ปัจจัยหลักมาจากการฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติของธุรกิจสัตว์บก ขณะที่ธุรกิจสัตว์น้ำความเสียหายยังคงมีอยู่ต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา ไตรมาสแรกปีนี้มียอดขาย 98,122 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 12% โดยกิจการในประเทศไทยเติบโต 7% และกิจการในต่างประเทศเติบโต 16% จากปีที่แล้ว โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาสแรกปีนี้ 13.4% เพิ่มขึ้นจาก 9.0% ในระยะเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับสัดส่วนยอดขาย ที่มาจากกิจการในต่างประเทศมีสัดส่วน 58% ยอดขายจากกิจการในไทยที่จำหน่ายในประเทศมีสัดส่วน 36%และยอดขายจากการส่งออกจากกิจการในไทยมีสัดส่วน 6% การเติบโตของกำไรเป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น จากระดับที่ต่ำในระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจสัตว์บกเป็นธุรกิจหลักที่มีการฟื้นตัวต่อเนื่องจากผลผลิตในปีนี้ได้กลับสู่ภาวะปกติ แต่สำหรับธุรกิจสัตว์น้ำในประเทศไทยนั้นความเสียหายจากโรค EMS ยังคงมีอยู่ ประกอบกับต้นปีนี้ภาวะอากาศที่เย็นกว่าปรกติ ทำให้มีการชะลอตัวของการเลี้ยงกุ้ง สถานการณ์การเลี้ยงกุ้งน่าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ "ส่วนกิจการในต่างประเทศเติบโตดี โดยเฉพาะในเวียดนามและอินเดีย โดยภาพรวมแล้วปีนี้มั่นใจบริษัทมีผลการดำเนินงานตามเป้าแน่นอน" น.ส.พัชรา ชาติบัญชาชัย เลขานุการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร กล่าวว่า ไตรมาสแรกปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.05 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย โดยมีรายได้อยู่ที่ 9.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากกิจการในประเทศไทย 4.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นรายได้จากกิจการต่างประเทศ5.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้บริษัทยังมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 9% เป็น 13% ด้านนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ หรือทียูเอฟ (TUF)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาสแรกปีนี้ พลิกฟื้นกลับมาแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิ 950 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 836 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธุรกิจปลาทูน่า กลุ่มธุรกิจกุ้งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกุ้ง กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มและผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกจากนี้ ปัจจัยค่าเงินบาทอ่อนตัวลง 9.1% ยังส่งผลให้ยอดขายในรูปเงินบาทเติบโตกว่า 14.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หรืออยู่ที่ 2.79 หมื่นล้านบาท "เชื่อมั่นว่าปีนี้รายได้จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 4 พันล้านดอลลาร์ โดยเราจะมุ่งเน้นสร้างอัตราผลกำไรให้ดีขึ้น ด้วยการบริหารการเงินอย่างรัดกุม รวมทั้งการสร้างความเป็นเลิศในการปฏิบัติการ เพื่อให้บรรลุประสิทธิภาพสูงสุด โดยยังคงรักษาวินัยการจัดการต้นทุนและบริหารกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง" สำหรับสัดส่วนรายได้แบ่งตามตลาด พบว่า ยอดขายของทียูเอฟ ในตลาดสหรัฐ ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อการ เติบโตของบริษัทมีสัดส่วน42% ของยอดขายรวม และมีอัตราการเติบโตกว่า 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาคือตลาดสหภาพยุโรป มีสัดส่วนยอดขาย 30% ของยอดขายรวม และเติบโตกว่า 19% ที่เหลือเป็นยอดขายในประเทศ 7% ญี่ปุ่น 5% และประเทศอื่นๆ 16% ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า กำไรของซีพีเอฟดีกว่าคาดการณ์ เพราะอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าคาด และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 9% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 13.4% และสูงที่สุดในรอบ 7 ไตรมาส จากธุรกิจสัตว์บกที่ฟื้นตัวขึ้นจากการที่ราคาขายปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ (ข้าวโพด) ปรับตัวลดลง อีกทั้งผลประกอบการในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม ฟื้นตัว ส่วนโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น และโตเด่นชัดไตรมาส 3 เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของการส่งออก ธุรกิจกุ้งเริ่มฟื้นตัวจากการที่มีผลผลิตกุ้งมากขึ้น ธุรกิจสัตว์บกเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะหมู ซึ่งราคาอยู่ในระดับสูง ยังคงประมาณการกำไรปกติอยู่ที่ 83.9พันล้านบาท ขณะที่ ทียูเอฟ คาดผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวแข็งแกร่ง เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของการส่งออก และมีผลผลิตกุ้งออกมามากขึ้นกว่าไตรมาสแรก ธุรกิจทูน่ามีการทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในสหรัฐ ขาดทุนลดลงหลังจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยนำเข้าสินค้าผลิตจากไทยไปขายมากขึ้น Tags : อดิเรก ศรีประทักษ์ • ซีพีเอฟ • ทียูเอฟ