ศูนย์วิจัยทองคำประเมินราคาทองยังปรับขึ้นต่อ ระบุปัจจัยที่ส่งผลกระทบ คือ การสู้รบในอิรัก นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ในระยะสั้นปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำให้ปรับเพิ่มขึ้น คือ ปัญหาการสู้รบในอิรัก และการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยนักลงทุนให้น้ำหนักในเรื่องดังกล่าวถึงร้อยละ 41 โดยเฉพาะหากสถานการณ์เลวร้ายลงลุกลามสู่พื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันในประเทศอิรัก จะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งและความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หากสถานการณ์เลวร้ายราคาทองจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 1,380-1,400 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือประมาณ 21,000 บาท ณ ระดับค่าเงินบาทที่ 32.80-32.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนกรกฎาคม 2557 ปรับขึ้นอยู่ที่ระดับ 56.14 จุด หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.31 จากเดือนก่อนที่ดัชนีอยู่ที่ 45.53 จุด ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในช่วง 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 63.81 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนร้อยละ 12.39 จาก 56.77 จุด ส่วนปัจจัยในระยะยาวที่มีผลต่อราคาทองคำ คือ การปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐและการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งหากธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีผลต่อราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงมา โดยประเมินกรอบเคลื่อนไหวสูงสุดในปีนี้อยู่ที่ 1,450-1,500 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งหากราคาทองปรับลดลงก็จะไม่ต่ำกว่า 1,100 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ โดยยังเชื่อว่าเมื่อราคาปรับลดลงก็จะมีการซื้อกลับ เนื่องจากนักลงทุนและกองทุนเก็งกำไรจะมีการสะสมทองคำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง Tags : กมลธัญ พรไพศาลวิจิต • ราคาทอง • อิรัก