"สบน." ออกพันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท อายุ 7 และ 10 ปี เสนอดอกเบี้ยสูงที่ 4.25-4.75% ต่อปี นายสุวิชญ โรจนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน.จะออกพันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 15-25 ก.ค.นี้ โดยพันธบัตรดังกล่าวจะมี 2 ส่วนแบ่งตามอายุ กล่าวคือ อายุ 7 ปี กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25% ต่อปี และ อายุ 10 ปี กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 4.75% ต่อปี สบน.จะเสนอขายพันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าวผ่าน 4 สถาบันการเงิน ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยในวันที่ 15-16 ก.ค.นี้ จะเปิดขายให้เฉพาะผู้ลงทุนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แบบไม่กำหนดวงเงิน จากนั้นระหว่างวันที่ 17-20 ก.ค.นี้ โดยจะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป แต่จำกัดวงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อธนาคาร ส่วนวันที่เหลือ จะเปิดขายแบบไม่จำกัดวงเงิน “สาเหตุของการเสนอขายพันธบัตรดังกล่าว ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับผู้ลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์ในรุ่นอายุ 10 ปี ที่ครบกำหนดการไถ่ถอนวงเงิน 8 หมื่นล้านบาทในช่วงนี้ เพราะถือว่า เป็นผู้ลงทุนที่ได้เคยนำเงินมาร่วมลงทุนกับภาครัฐ ดังนั้น จะเห็นได้ว่า อัตราดอกเบี้ยที่เราเสนอให้นั้น อยู่ในระดับที่ดี แม้จะไม่สามารถเทียบเท่ากับดอกเบี้ยที่เคยได้เมื่อครั้งที่ลงทุนคราวก่อน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7-8% แต่หากเทียบดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 ปีเดียวกันในขณะนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 3.78% ดังนั้น เราเชื่อว่า พันธบัตรที่เสนอขายนี้ จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนและขายได้หมดทั้งจำนวน”เขากล่าว ส่วนสาเหตุที่สบน.ไม่ออกพันธบัตรออมทรัพย์เต็มวงเงิน 8 หมื่นล้านบาท เขากล่าวว่า สบน.ได้พิจารณาแล้วว่า วงเงินดังกล่าวน่าจะเพียงพอที่จะรองรับผู้ลงทุนกลุ่มดังกล่าว ขณะเดียวกัน เราเห็นว่า ในช่วงนี้ ตลาดจะมีโปรดักท์ในการระดมเงินอยู่ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในส่วนของภาคเอกชน ซึ่งอาจเสนออัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูงกว่านี้ หากเราออกเต็มวงเงินอาจจะไม่สามารถขายได้หมดทั้งจำนวน ทั้งนี้ พันธบัตรออมทรัพย์ดังกล่าวอยู่ในวงเงินพันธบัตรรัฐบาลที่สบน.มีแผนจะออกเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณจำนวน 6.3 หมื่นล้านบาทในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ สำหรับแผนการระดมเงินในภาพรวมของสบน.ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 3 แสนล้านบาท แบ่งเป็น การออกพันธบัตรเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท , การออกพันธบัตรเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้และอื่นๆ จำนวน 1.26 แสนล้านบาท และ การออกพันธบัตรและกู้ผ่านสถาบันการเงินเพื่อการลงทุนแก่รัฐวิสาหกิจจำนวนประมาณ 8.6 หมื่นล้านบาท ในจำนวนเงิน 8.6 หมื่นล้านบาทที่กู้เพื่อการลงทุนให้แก่รัฐวิสาหกิจ จะประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัทขนส่งมวลชนกรุงเทพ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และการไฟฟ้านครหลวง “ถือเป็นเรื่องปกติที่รัฐวิสาหกิจจะเร่งระดมเงินในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เพราะในช่วงต้นๆ ของปี เขาจะมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับการลงทุน หากเร่งกู้ในช่วงต้นๆ ของปี จะทำให้เขาเสียอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นรัฐวิสาหกิจจึงเลือกที่จะกู้ในช่วงนี้”เขากล่าว ทั้งนี้ แผนการระดมเงินราว 3 แสนล้านบาทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนั้น ไม่ถือว่า เป็นการกระจุกตัว เพราะตลาดรับรู้แผนดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกัน ในแง่สภาพคล่องของตลาดก็ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยขณะนี้ มีสภาพคล่องอยู่ราว 1.5 ล้านล้านบาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็อยู่ในระดับที่ไม่ทำให้ต้นทุนการกู้ของภาครัฐสูง Tags : สุวิชญ โรจนวานิช • สบน. • ออกบอนด์