วิสัยทัศน์ ผจก.ตลาดหลักทรัพย์คนใหม่

(รายงาน) วิสัยทัศน์ ผจก.ตลาดหลักทรัพย์คนใหม่ ซื้อขายแตะแสนล้าน-พัฒนาเทียบชั้นสากล

รายการ Ringside สังเวียนหุ้น ทางสถานีโทรทัศน์ NOW26 ตอน "อนาคตตลาดหุ้นไทยในมือหญิงแกร่ง" เปิดวิสัยทัศน์ เกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนใหม่ กับเป้าหมายยกระดับตลาดหุ้นไทยสู่ตลาดชั้นนำของภูมิภาค

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนที่ 12 ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ตลท. กล่าวว่า การพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ไทยให้ก้าวสู่เวทีสากลนั้น ตลาดหลักทรัพย์มุ่งเน้น 3 ด้าน คือ 1.การต่อยอดสินค้าที่มีในปัจจุบันให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและหลากหลายยิ่งขึ้น 2.การสร้างใหม่ หมายถึง การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ และ 3.การขยายฐานผู้ลงทุนที่มุ่งเน้นปลูกฝังความเข้าใจในเรื่องการลงทุนว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต

ทั้ง 3 ด้านจะดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพ เพื่อให้ตลาดทุนสามารถเป็นที่พึ่งให้กับประเทศ และตอกย้ำการเป็นตลาดทุนชั้นนำของภูมิภาค

อย่างไรก็ดี การดำเนินงานตามแผนทั้ง 3 ด้านจะเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยพร้อมสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนได้เข้าไปอยู่ในการจัดอันดับระดับโลกเพิ่มขึ้น อาทิ ดัชนีด้านความยั่งยืน หรือการจัดอันดับด้านบรรษัทภิบาลตามมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ จะพัฒนาให้การเข้าถึงตลาดและการรับข้อมูลจากตลาดสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยนำเทคโนโลยีระบบออนไลน์เข้ามาผนวกไว้ด้วยกันกับบริการด้านต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์อย่างครบวงจร เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุนอย่างเต็มที่

"ทำอย่างไรที่เราจะเปลี่ยนจากตลาดแค่ในประเทศ เป็นตลาดที่มีความเป็นสากลมากขึ้น คำตอบคือเราต้องปรับการบริการให้มีความเป็นสากล ซึ่งตอนนี้เราเริ่มจากเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ก่อน เราไม่ได้มีแค่ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ แต่เรามีภาษาญี่ปุ่น และจะเพิ่มภาษาอื่นๆ เข้าไปอีกในอนาคตด้วย" นางเกศรา กล่าว

ตั้งเป้าซื้อขายเกินแสนล้าน

กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า แผนการระยะยาวของตลาดหลักทรัพย์ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการซื้อขายให้แตะระดับ 1 แสนล้านบาทต่อวันในปี 2563 ซึ่งจะเริ่มจากการพัฒนาตลาดทุนให้แข็งแกร่ง ทั้งด้านสินค้า บริการ และมาตรฐานของบุคลากร ทั้งยังจะร่วมกับองค์กรต่างๆ ของภาคตลาดทุนในการพัฒนาศักยภาพไปสู่ระดับที่ตั้งเป้าหมายไว้

ส่วนการทำงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ ปี 2557 ที่มุ่งเพิ่มคุณภาพบริษัทจดทะเบียน ผู้ลงทุนบุคคล สถาบันตัวกลาง ผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายในและต่างประเทศที่สูงขึ้น พร้อมสร้างความเชื่อมโยงกับภูมิภาค รวมทั้งเดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพระบบโครงสร้างพื้นฐานให้เสร็จสมบูรณ์

มาร์เก็ตแคป บจ.ใหม่ตามเป้า

นางเกศรา กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้น ตลาดหลักทรัพย์ยังคงเป้าหมายมาร์เก็ตแคปจากบริษัทจดทะเบียนใหม่ในปีนี้ที่ 2.1 แสนล้านบาท โดยล่าสุดมีมูลค่ามาร์เก็ตแคปจาก บจ.ใหม่ที่เข้ามาระดมทุนแล้วกว่า 9.1 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าในครึ่งปีหลังจะมีบริษัททยอยเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มเติมจนบรรลุตามเป้าหมาย และยังคงเป้าหมายการเพิ่มฐานนักลงทุนรายบุคคลอีก 80,000 บัญชี

นอกจากนั้น ยังคงเป้าหมายปริมาณการซื้อขายของสินค้า TFEX ที่ 75,000 สัญญาต่อวัน จากล่าสุดมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 71,000 สัญญาต่อวัน ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังประเมินว่า ปริมาณการซื้อขายของ TFEX จะขยับไปแตะระดับ 100,000 สัญญาต่อวันได้ หลังความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาจากปัญหาทางการเมืองที่คลี่คลายลง

ศก.ฟื้น-รายย่อยทะลุล้าน

กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบันแนวโน้มการลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ลงทุนรายย่อยซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตมากถึง 6.48 แสนราย หรือคิดเป็น 67.19% ของนักลงทุนรายย่อยทั้งหมด 9.64 แสนราย คิดเป็นเงิน 7.7 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 76.52% จากสิ้นปี 2555 ที่ 4.4 ล้านบาท หากคิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันซึ่งอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาทนั้น จะพบว่ามีแรงซื้อขายจากอินเทอร์เน็ตประมาณ 32.78% ของการซื้อขายรวม

"การเติบโตของการซื้อขายลงทุนผ่านอินเทอร์เน็ตของไทยในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเติบโตอย่างมาก เราหวังว่าในอนาคตการลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์จะเติบโตได้ดียิ่งขึ้นเหมือนประเทศเกาหลีใต้ ตุรกี ที่มีสัดส่วนการลงทุนผ่านออนไลน์มากถึง 80-90% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด"

ตลาดหุ้นครึ่งปีหลังคึกคัก

นางเกศรา ยังประเมินว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก หลังเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ อีกทั้งการลงทุนของภาครัฐเริ่มเดินหน้าไปแล้วบางส่วน รวมถึงงบประมาณในปี 2558 จะสามารถจัดทำกฎหมายและประกาศใช้ได้ทันตามกำหนดระยะเวลาภายในเดือน ต.ค.2557

นอกจากนี้ คาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่น่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเร็ววัน ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลเชิงบวกให้กับบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักในช่วงครึ่งปีหลังอย่างแน่นอน ส่วนการลงทุนระยะยาว นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลหุ้นแต่ละตัวจากบทวิเคราะห์โบรกเกอร์ให้มาก เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน

"เศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นมากจากนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 ที่ต้องชะงักลงเพราะได้รับผลกระทบทางการเมือง ซึ่งเรื่องนี้ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้หันกลับมาลงทุนมากขึ้นกว่าเดิม"

ไม่จำเป็นต้องแปรรูป ตลท.

เมื่อถามถึงความจำเป็นของการแปรรูป ตลท.ว่ามีแค่ไหน อย่างไร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาของตลาดหลักทรัพย์ยังสามารถเดินหน้าทุกอย่างได้ดี มีศักยภาพและประสิทธิภาพที่ดีในการทำงาน ท่ามกลางความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างแรกที่ต้องถาม คือ จะแปรรูปไปเพื่ออะไร ถ้าแปรรูปเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน วันนี้เรามีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยมในการทำงานหลายๆ ด้านอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องแปรรูปตลาดหุ้น แต่ถ้าจะบอกว่าจะแปรรูปเพื่อเหตุผลข้ออื่น เราก็ยินดีที่จะมีการหารือกันเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมให้ดีขึ้น แต่ตอนนี้มองว่ายังไม่จำเป็น

"เท่าที่ทำงานมา เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยมีศักยภาพในการทำงานที่เต็มเปี่ยมอยู่แล้ว ต้องถามว่าจะแปรรูปไปเพื่ออะไร ถ้าแปรรูปเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงานก็คงยังไม่จำเป็น เพราะเรามีอยู่แล้ว แต่ถ้าแปรรูปเพื่อเหตุผลอื่น ก็ต้องมาดูกันว่าคืออะไร"

นางเกศรา กล่าวทิ้งท้ายว่า ก่อนตัดสินใจสมัครเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ก็ได้ปรึกษาหารือกับครอบครัวแล้ว ทางบ้านก็เข้าใจ และให้กำลังใจให้เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ ดังนั้นเมื่อทางบ้านเข้าใจ เราก็พร้อมที่จะทุ่มเททำงานให้องค์กรนี้เหมือนอย่างที่เราเคยทำมาตลอด โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ การพัฒนาตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้โดดเด่นในภูมิภาค มีเครื่องมือในการลงทุนที่หลากหลายตามความต้องการของผู้ลงทุน เป็นองค์ที่โปร่งใส พนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และประชาชนสามารถไว้วางใจได้

Tags : ตลท. • เกศรา มัญชุศรี • ตลาดหลักทรัพย์ • NOW26 • การแปรรูป