โบรกฯแนะขายหุ้นแพง-ลุย'หุ้นปันผล'

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 13 กรกฎาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    โบรกเกอร์ดังแนะกลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้นในระยะต่อไป เดินหน้าขายหุ้นแพง ลงทุนหุ้นปันผล

    นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินทุนจากต่างประเทศเริ่มไหลเข้ามาในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ทิศทางเดียวกับในประเทศไทยที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิราว 5.8 พันล้านบาท โดยมีมูลค่าตลาดตั้งแต่ปี 2552 อยู่ที่ราว 5.01 หมื่นล้านบาท

    อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นักลงทุนกลุ่มนี้เทขายสุทธิหุ้นไทยออกมาอย่างหนักในช่วงกลางเดือน พ.ค.2557 กว่า 3.7 หมื่นล้านบาท ทำให้เชื่อว่าในระยะสั้นไม่น่าจะมีแรงขายอย่างหนัก แต่น่าจะเป็นการเข้าซื้อสลับกับขายเบาบางตามภูมิภาคต่อไป

    ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนทำให้ค่า Current PER แตะที่ระดับ 16 เท่า ซึ่งถือเป็นกรอบบนในการซื้อขายภายใต้ภาวการณ์ปกติ ทำให้มีโอกาสเห็นการปรับฐานราคาลงมาของ SET Index ได้ตลอดเวลา ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมที่สุด คือ การทยอยขายหุ้นที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปอยู่เหนือ Fair Value หรือมีค่า PER ที่สูงมากเกินไป เช่น ITD ซึ่งฝ่ายวิจัยได้ปรับคำแนะนำเป็นขาย นอกจากนี้ ยังมี NWR, TSTH, PF, LPN เป็นต้น

    สำหรับหุ้นที่ควรเปลี่ยนเข้ามาทดแทนในพอร์ตการลงทุน ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส แนะว่า จะเน้นหุ้นที่มีความปลอดภัยในเชิงของพื้นฐาน โดยคุณสมบัติประการสำคัญคือการมีค่า PER ที่ต่ำ และสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง

    ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงกลางเดือน ส.ค.เป็นต้นไป จะเข้าสู่ฤดูการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากที่ให้ปันผลอยู่ในระดับสูง กระทั่งหนุนให้ราคาหุ้นตอบรับในด้านบวกก่อนการประกาศจ่ายเงินปันผล

    จากการศึกษาข้อมูล 10 ปีย้อนหลังพบว่า หุ้นที่มีการจ่ายปันผลเด่น ราคาหุ้นมักจะทยอยปรับตัวสูงขึ้นล่วงหน้าราว 1-2 เดือนก่อนหน้าวันขึ้นเครื่องหมาย XD

    ฝ่ายวิจัยกำหนดกลยุทธ์การลงทุนสำหรับหุ้น Big Cap คือ ซื้อหุ้นล่วงหน้าก่อนวันขึ้น XD 1-2 เดือน แล้วขายทำกำไรหลังวัน XD 1-2 เดือน ในอดีตให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.3-7.5% ด้วยความน่าจะเป็นราว 72% Top Picks เลือก INTUCH (FV@B109), ADVANC (FV@B270), TTW (FV@B13.3), PTTEP (FV@B195) และ SCC (FV@B520)

    ส่วน Mid-Small Cap ซื้อวันก่อนขึ้น XD 2 เดือนและขายหลังวัน XD 1 เดือน จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 9.3% ด้วยความน่าจะเป็นที่ 62% Top Picks เลือก KKP (FV@B52.20),BECL (FV@B45) และเก็งกำไร MBKET (FV@B26)

    ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายนานขึ้นกว่าที่คาดไว้เดิม โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,518.01 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.48 จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงร้อยละ 7.04 จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 38,950.12 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนรายย่อย บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 521.95 จุด ซึ่งเป็นทิศทางที่เพิ่มขึ้น

    ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า มองว่า ดัชนีมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยฯ คาดว่าดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,504 และ 1,496 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,532 และ 1,552 จุดตามลำดับ


    Tags : ประกิต สิริวัฒนเกตุ • บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส • ตลาดหุ้น • หุ้นปันผล

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้