กสิกรไทยคงเป้าสินเชื่อที่ 5% ขณะที่ธุรกิจไอบีจะกลับมาคึกคักครึ่งหลังความต้องการระดมทุนเพิ่มขึ้น นายวศิน วณิชยวรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของธนาคารสามารถขยายสินเชื่อได้ 2% ในช่วงครึ่งแรกของปี หรือมีพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 4.2 แสนล้านบาท สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยตลอดทั้งปีนี้เชื่อว่าจะขยายสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 5% หรือมีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 4.4 แสนล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งความต้องการสินเชื่อในช่วงครึ่งหลังจะเป็นความต้องการสินเชื่อระยะยาว หลังจากที่กำลังการผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 60-70% มาอยู่ในระดับใกล้ 80% รวมถึงภาคการส่งออกสินค้าเกษตร ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมในช่วงครึ่งแรกเติบโตได้ 10% จากการให้บริการทางการเงิน และเชื่อว่าจะโตได้ตามเป้าหมายในปีนี้ แม้ว่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาธุรกิจการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินยังไม่คึกคักมากนัก แต่ครึ่งปีหลังยังมีแรงส่งทางเศรษฐกิจที่จะทำให้เกิดดีลทางด้านวาณิชเพิ่มขึ้นเอื้อต่อการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียม ทั้งในเรื่องของการออกหุ้นกู้เพื่อล็อกต้นทุนในช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น การระดมทุนในตลาดทุน (ไอพีโอ) อีก3-4 ราย และการเป็นที่ปรึกษาในการควบรวมกิจการหรือออกไปลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงการออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่จะมีความต้องการระดมทุนกว่าแสนล้านบาท โดยธนาคารคาดว่าจะสามารถออกกองแรกของประเทศไทยได้ในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้ ทั้งนี้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีจะมีการระดมทุนในกองทรัสต์ดังกล่าวรวมแล้วประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท “การลงทุนใหม่คงยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม แต่คนเริ่มคลายความกังวลแล้ว จะเห็นการลงทุนต่าง ๆ เริ่มกลับมา หลังจากที่รัฐเริ่มต้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชนที่จะดึงความต้องการลงทุนกลับมา เช่นกลุ่มรับเหมาที่เริ่มดี๊ด๊ามาขอหนังสือค้ำประกัน แต่ที่ผ่านมาเราไม่เน้นการขยายสินเชื่ออยู่แล้ว แต่จะเน้นทรานแซคชั่นแบงกิ้งซึ่งจะสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมตามมา” ทั้งนี้โครงการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะมีโครงการที่น่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงปี2557-2558 ประมาณ 4.8 แสนล้านบาท ทั้งการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ และการปรับปรุงสนามบินดอนเมือง ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวขึ้นได้โดยมีอัตราการเติบโตที่ 5.8% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในเขตกทม.และปริมณฑล จะขยายตัวถึง 3.4% จากครึ่งปีแรกที่ติดลบ 13.1% นายวศิน กล่าวว่า จากทิศทางในเชิงบวกของเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง จะทำให้มีธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารกสิกรไทยไม่น้อยกว่า 24 ล้านล้านบาท ซึ่งจะสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้รายได้จากค่าธรรมเนียมทั้งปีเติบโต 10% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส กล่าวว่าแม้ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร งวดครึ่งแรกของปีนี้ไม่น่าประทับใจนัก แต่น้ำหนักเทไปที่การฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง และปี 2558 แล้ว ทำให้โอกาสของการปรับเพิ่มประมาณการมีสูงมาก ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาด ธนาคารพาณิชย์ทั้ง 10 แห่งที่ศึกษาจะมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/2557 เท่ากับ 5.03 หมื่นล้านบาท ทรงตัวจากงวด ที่ผ่านมา และยังทรงตัวจากงวดไตรมาส 2/2556 โดยที่ภาพรวมธุรกิจหลักของธนาคาร ในงวด 2/2557 ยังแข็งแกร่ง สวนทางกับภาพรวมเศรษฐกิจและสินเชื่อที่ยังชะลอตัว สะท้อนได้จากคาดการณ์ NIM ที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากงวดที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่ทยอยลดลง เช่นเดียวกับรายได้ค่าธรรมเนียมฯ ที่ยังทรงตัวได้ แม้จะเป็นช่วงนอกฤดูกาลอีกทั้งมีวันหยุดต่อเนื่องก็ตาม อย่างไรก็ตาม ปัจจัยกดดันที่เห็นในงวดนี้ ได้แก่ ทิศทางเอ็นพีแอลที่เป็นขาขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นน่ากังวล เพราะเป็นการเพิ่มขึ้นจากปัญหาเฉพาะรายลูกหนี้ ไม่ใช่ผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจในวงกว้าง แต่ก็ทำให้คาดการณ์ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ฝ่ายวิจัยไม่ได้คาดหวังการเติบโตของธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกอยู่แล้ว แต่จะให้ความสำคัญไปที่แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง และต่อเนื่องถึงปี 2558 ซึ่งจะเป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้น จากภาพรวมเศรษฐกิจปี 2557 ในช่วงครึ่งปีหลังที่เป็นไปในทิศทางที่แข็งแกร่งมากขึ้นจาก Roadmap กระตุ้นเศรษฐกิจของ คสช. ทำให้ฝ่ายวิจัยต้องปรับมุมมองแนวโน้มการเติบโตของจีดีพี ปี 2557 ว่ายังคงเป็นไปได้ที่อัตรา 2% ที่ประเมินไว้ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจต่อคาดการณ์การเติบโตของผลการดำเนินงานปีนี้ Tags : วศิน วณิชยวรนันต์ • กสิกร • สินเชื่อ • ค่าธรรมเนียม