สถาบันจ่อซื้อหุ้นไทย5หมื่นล.

หัวข้อกระทู้ ใน 'ข่าวสารการลงทุน' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 8 กรกฎาคม 2014.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เอกชนมองปีหน้าเศรษฐกิจไทยสดใส นักลงทุนต่างชาติกลับเข้าลงทุน สถาบันไทยจ่อลงทุนหุ้นเพิ่มอีก 5 หมื่นล.

    ธนาคารกรุงศรีฯ จัดงานสัมมนา "การปรับตัวของภาคธุรกิจ ฝ่าวิกฤติพิชิตการลงทุน" วานนี้ (7 ก.ค.) เพื่อนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 พร้อมมุมมองภาคเอกชนในการปรับตัวรับกับภาวะเศรษฐกิจ

    นายประภาส ตันติพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า นักลงทุนสถาบัน มีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย มีแนวโน้มเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี หรือมีเม็ดเงินที่รอเข้าลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากช่วงต้นปีถึงปัจจุบันที่นักลงทุนสถาบันเข้าซื้อหุ้นไทยแล้ว 4 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 9 หมื่นล้านบาทในปีนี้

    "แม้ปีนี้เม็ดเงินใหม่จากนักลงทุนจะมีไม่มาก ไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท แต่ปีที่ผ่านมามีเม็ดเงินที่เข้ามาซื้อกองทุนจำนวนมาก ซึ่งกองทุนบางส่วนเก็บเงินสดไว้ ไม่ได้เข้าลงทุนในตลาดหุ้นทั้งหมด เพราะไม่มั่นใจสถานการณ์ในประเทศ แต่ขณะนี้ภาพรวมชัดเจนขึ้น ทำให้กองทุนกล้าที่จะเข้าลงทุน"

    สำหรับบลจ.กรุงศรีนั้น มีการลงทุนในตลาดหุ้นเกือบจะทั้งหมด หรือประมาณ 98-99%ของเม็ดเงินที่เข้ามาอยู่แล้ว เพียงแต่ในช่วงนี้จะมีการปรับพอร์ตลงทุน โดยลดน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สื่อ และพลังงาน แล้วเพิ่มน้ำหนักการทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ จากที่มีในพอร์ตน้อยมาก เพิ่มเป็นมากกว่า 10%

    "เชื่อว่าในอีก 4-6 ไตรมาสข้างหน้า หรือถึงสิ้นปีหน้าตลาดหุ้นไทยจะโตตามจีดีพี ที่คาดว่าจีดีพีจะโตเฉลี่ย5% ดัชนีอาจจะอยู่ระดับ 1,600-1,650 จุด ระหว่างปีอาจจะทดสอบจุดสูงสุดของตลาดหุ้นไทย หรือ 1,700 จุดได้ ตามความเชื่อมั่นในมาตรการเศรษฐกิจ นักลงทุนต่างชาติที่เคยขายสุทธิก็จะกลับเข้าลงทุน และให้น้ำหนักกับการเมืองลดลง"

    นอกจากนี้หากคสช.มีการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจที่ชัดเจน เชื่อว่าในช่วง 10 ปีนี้ภาพตลาดหุ้นไทยจะเปลี่ยนในทิศทางที่ดีขึ้นมาก สามารถให้ผลตอบแทนในระดับ 5-10% ต่อปีได้

    ขณะที่นายธนเดช รังษีธนานนนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยถือว่าแพงเมื่อเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาค แม้ว่าอัตราเงินปันผลจะสูงกว่า ประกอบเงื่อนไขการเมืองยังไม่ปลดล็อก ทำให้เม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติยังไม่เข้ามาลงทุน และหลังจากครึ่งปีแรกที่ดัชนีปรับขึ้นไปสูงแล้ว อาจจะปรับฐานลงมาบ้างในช่วงไตรมาส 3 มาอยู่ในระดับ 1,400-1450 จุด

    ทั้งนี้บริษัทจึงยังไม่ปรับเป้าดัชนีปีนี้ ยังมองว่าอยู่ระดับ 1,486 จุด แต่ปีหน้าดัชนีอาจจะปรับขึ้นมาอยู่ระดับ 1,600 จุด ส่วนกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ คาดว่าจะมีกำไรประมาณ 8.3แสนล้านบาท เติบโต 7.1% โดยกลุ่มอาหารมีการเติบโตสูงสุด ประมาณ 38.4% ส่วนกลุ่มธนาคาร ปิโตรเคมี ขนส่ง อาจเติบโตต่ำกว่าตลาด

    "ในมุมมองของบริษัท มองว่าหุ้นไทยไม่แพง แต่ก็ไม่ได้ถูกแล้ว อย่างไรก็ตามในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า ยังมีมุมมองเป็นบวก และกลุ่มที่มีโอกาสปรับขึ้นเป็นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ"

    ส่วนนายรุ่งศักดิ์ สาธุธรรม ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ธนาคารกรุงศรีฯ เปิดเผยว่า ประเมินว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะเติบโตในระดับ 4-5% หลักๆมาจากการลงทุนภาครัฐ และเอกชน ส่วนในปีนี้ต้องติดตามภาคการส่งออกว่าจะเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ที่ 1-3%หรือไม่

    Tags : ประภาส ตันติพิบูลย์ศักดิ์ • เอกชน • เศรษฐกิจ • สถาบันการเงิน

    [​IMG]
     

แบ่งปันหน้านี้