ผมเชื่อและเคารพในวัฒนธรรม, ประเพณี และความเชื่อถือของผู้อื่น เพราะผมเชื่อว่าคนผู้เกิดมาในครอบครัวที่แตกต่างกัน ถูกเลี้ยงดูด้วยวิธีที่แตกต่างกัน, อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน, ถูกอบรมสั่งสอนมาตามความเชื่อหรือศรัทธาที่ต่างกัน เขาเหล่านั้นย่อมมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน โดยความแตกต่างกันนั้นไม่มีใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิดแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่เวลาที่คนไทยกินอาหารดิบๆสุกๆหรืออาหารประเภทหมักๆ ดองๆ ฝั่งกลับบอกว่าเป็นเพราะคนไทยไม่พัฒนาจึงทำให้มีพยาธิระบาด ในขณะที่ฝรั่งเองกินอาหารกึ่งดิบกึ่งสุกหรือค่อนไปทางดิบมากกว่าสุก เช่นกินสเต๊กแบบเนื้อส่วนกลางข้างในยังมีเลือดฉ่ำเยิ้ม ฝรั่งกลับบอกว่าวิธีการกินแบบนี้จะได้รสชาติของเนื้อที่ดีที่สุด การเอาความคิดของคนที่เกิด, เติบโต, ได้รับการอบรมสั่งสอน และอยู่ในสิ่งแวดล้อม, วัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่างกันไปตัดสินการกระทำของผู้อื่น จึงเป็นเรื่องที่มีความเป็นธรรมเป็นอย่างยิ่ง แต่ชนชาติที่คิดว่าตนเองมีความเจริญก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นมักจะยึดถือและปฏิบัติกันอยู่เป็นประจำ ตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาและมหาอำนาจชาติตะวันตกที่รวมหัวกันเป็นกลุ่มแก๊งกรรโชกทรัพย์ประเทศอื่นทั่วโลก พากันออกมาประสานเสียงสอดรับว่า การที่ประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการให้ประชาชนเดินหน้าเข้าคูหา แล้วกากบาทเลือกเอานักการเมืองอาชีพมาเป็นรัฐบาล เป็นสิ่งเลวร้ายที่พวกเขายอมรับไม่ได้ เพราะพวกเขาชาวประเทศเหล่านั้นล้วนแต่เป็นประชาธิปไตย ด้วยการถือเอาความคิดของตนเองและพรรคพวกเป็นใหญ่เช่นนี้เองจึงทำให้สหรัฐอเมริกาและพรรคพวกประเทศลูกสมุนทั้งหลาย จึงตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในทางธุรกิจต่อประเทศผู้แพ้สงครามอย่างเยอรมนี และญี่ปุ่น เพราะประชาชนของ 2 ประเทศดังกล่าว พร้อมที่จะปรับตัวยอมรับความคิดเห็นและกลยุทธ์ของผู้อื่นเพื่อนำมาปรับใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรม, ประเพณี และวิถีชีวิตของตนนั่นเอง อุตสาหกรรมและธุรกิจยานยนต์เป็นสิ่งที่สามารถนำมากล่าวอ้างได้ดี เพราะในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐอเมริกาและพวกพ้องล่มสลาย หลายยี่ห้อต้องถูกซื้อไปโดยเศรษฐีใหม่คือประเทศจีน ประเทศที่สหรัฐอเมริกาและลิ่วล้อดูหมิ่นถิ่นแคลนมาโดยตลอด แต่ท้ายที่สุดประเทศที่ถูกดูถูกมาก่อนหน้านี้กลับกลายมาเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศผู้แพ้สงครามทางทหารอย่างเยอรมนี และญี่ปุ่น กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่เข้าครอบครองตลาดโลก และตลาดภายในของสหรัฐอเมริกาเองด้วยซ้ำ ที่ผมเกริ่นเรื่องของคนที่มีความคิดแตกต่างกันขึ้นมา เพราะในเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้รถยนต์ หลายครั้งจากมุมมองที่แตกต่างกันหรือจากพื้นฐานของความคิดที่ต่างกันก็ทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้นจนบานปลายอยู่บ่อยไป เช่นเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาความร้อนของเครื่องยนต์ ระหว่างช่างหรือคนที่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์บ้าง ฝ่ายหนึ่งแนะนำว่าให้ถอดเอาเทอร์โมสตรัทหรือวาล์วน้ำออกไป ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าจะทำให้ระบบระบายความร้อนบกพร่องอย่างนี้ เป็นต้น ทั้งที่ในความเป็นจริงต้องดูว่าคำแนะนำนั้นๆ เกิดขึ้นมาจากปัญหาใด และผู้ที่ประสบปัญหามีวัตถุประสงค์อย่างใดหรือต้องการคำตอบเพื่ออะไร สมมติว่ามีคนถามว่ารถยนต์ยางแบนจะทำอย่างไร คนตอบอาจจะให้คำตอบว่า “จงขับรถต่อไปด้วยความเร็วต่ำ หลีกเลี่ยงการหักพวงมาลัยเลี้ยวไปมาและการเบรกบ่อยครั้ง” ก็อาจจะมีคนบอกว่าคำแนะนำหรือคำตอบอย่างนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายที่ยางและกระทะล้อมากขึ้นไปอีก ในขณะที่ผู้ตอบเข้าใจดีว่าผู้ถามต้องการคำตอบสำหรับกรณีที่รถเกิดยางแบนที่เปลี่ยวและยามวิกาล รวมทั้งเกิดเหตุการณ์ขึ้นในพื้นที่ซึ่งมีปัญหาอาชญากรรมบ่อยครั้ง การขับรถต่อไปทั้งที่ยางแบนแน่นอนว่ายางจะต้องเสียไปหรือกระทะล้ออาจจะเสียไปด้วย แต่ก็ยังดีกว่าจอดทำการเปลี่ยนยางในสถานการณ์นั้น แล้วต้องโดนจี้ปล้นซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินและชีวิตของตนเอง หรือในกรณีที่ขับรถไประหว่างทางซึ่งเปลี่ยว แล้วพบว่ามาตรวัดความร้อนสูงขึ้นผิดปรกติ กรณีอย่างนี้ต้องตรวจสอบว่าต้นเหตุของความร้อนเกิดจากจุดไหน ถ้าเกิดจากมีรอยน้ำรั่วจากบริเวณท่อยางหม้อน้ำ คำตอบมาตรฐานก็คือให้เปลี่ยนท่อยางหม้อน้ำใหม่ แต่หากไม่สามารถหาท่อยางหม้อน้ำใหม่ได้ ก็ให้ใช้พลาสติกมาพันทับบริเวณรอยรั่วให้แน่นแล้วเติมน้ำจากนั้นจึงขับรถต่อไปด้วยรอบเครื่องยนต์ต่ำๆ จนถึงที่ซึ่งสามารถหาท่อยาหม้อน้ำมาเปลี่ยนใหม่ได้ หรือพบว่ามีรอยรั่วเกิดขึ้นที่บริเวณครีบรังผึ้งหม้อน้ำ และไม่สามารถหาอะไรมาทำการอุดรอยรั่วนั้นได้ ก็ให้ใช้คีมบีบเข้าไปบริเวณครีบรังผึ้งหม้อน้ำตรงที่รั่วให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้น้ำไหลผ่านบริเวณที่รั่วอีก การแก้ไขเช่นนี้จะทำให้สามารถขับรถคันดังกล่าวไปจนกระทั่งถึงอู่หรือศูนย์บริการที่สามารถหาหม้อน้ำใหม่มาเปลี่ยนแทนที่เข้าไปได้แล้ว จึงจัดการเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ทั้งลูกเพื่อขจัดต้นตอของปัญหาความร้อนที่เกิดขึ้นครับ Tags : ออโต้คลินิค • พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ • รถยนต์ • สหรัฐ • คสช.