สวนดุสิตโพล ปชช. มีความสุขเพิ่มเกือบร้อยละ90 หลัง คสช. บริหารประเทศ ด้าน มาสเตอร์โพล ปชช. ต้องการให้ลุยปราบโกงจำนำข้าวมากสุด ชี้ปัญหาการเมืองต้นเหตุพัฒนาประเทศล้มเหลว ร้อยละ95.8 เห็นว่าต้องรีบปฏิรูป "ดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง สิ่งที่เปลี่ยนไป ระหว่า "ก่อนมี คสช. และหลังมี คสช." จากกลุ่มตัวอย่าง 2,091 คน ทุกเพศ ทุกวัยทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 1-5 ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ตัวประชาชน ร้อยละ 88.52 รู้สึกสบายใจขึ้น เห็นบ้านเมืองสงบสุข, ร้อยละ 81.96 สามารถเดินทางได้ตามปกติ สะดวกมากขึ้น ขณะที่ความเห็นในส่วนของครอบครัว พบว่าร้อยละ 93.53 บรรยากาศครอบครัวดีขึ้น ไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของคนในครอบครัว, ร้อยละ 79.41 มีเวลาพบปะกันมากขึ้น ส่วนความเห็นของญาติ เพื่อน และเพื่นร่วมงาน ร้อยละ 90.20 มีความสุข ไม่เครียดกับสถานการณ์บ้านเมือง, ร้อยละ 84.71 เปิดใจรับฟังความคิดเห็นกันมากขึ้น และร้อยละ 68.43 คำนึงถึงส่วนรวมมากขึ้น ทำให้สรุปได้ว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด คือมีความสุขเพิ่มมากขึ้นถึงเกือบ ร้อยละ 90 หลังจาก คสช. เข้ามาบริหารประเทศ มาสเตอร์โพล ปชช.จี้ คสช. ปราบโกงจำนำข้าวมากสุด มาสเตอร์โพล ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง สาธารณชนอยากเห็นอะไร และไม่อยากเห็นอะไรในอีก 1 ปีข้างหน้า จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,158 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย. - 5 ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 82.4 ระบุว่าความขัดแย้งทางการเมืองในหมู่ประชาชน คือสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยล้มเหลวในการพัฒนา ขณะที่ร้อยละ 80.6 ระบุว่าเกิดจากปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 78.3 ระบุเกิดจากความล้มเหลวด้านการศึกษา และร้อยละ 62.7 ระบุเกิดจากความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ สิ่งที่สาธารณชนอยากเห็นสิ่งที่ดีกว่าในอีก 1 ปีข้างหน้า พบว่า ร้อยละ 88.5 อยากเห็นเศรษฐกิจที่ดีกว่า ร้อยละ 83.9 อยากเห็นการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นได้ดีกว่า และร้อยละ 80.1 อยากเห็นประชาธิปไตยที่ดีกว่า นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างยังต้องการให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลุยปราบโกงจำนำข้าวมากที่สุด ร้อยละ 86.7 รองลงมาร้อยละ 81.5 ปราบโกงธุรกิจพลังงาน และร้อยละ 78.7 ลุยปราบโกงสัมปทาน ทำถนน ซ่อมทาง สะพาน อาคารหน่วยงานรัฐ ส่วนเมื่อถามว่า ประเทศไทยถึงเวลาต้องปฏิรูปหรือยัง ร้อยละ 95.8 ระบุถึงเวลาแล้ว ขณะที่มีเพียงร้อยละ 4.2 เท่านั้นที่ระบุยังไม่ถึงเวลา