"บางจาก"เผยนักลงทุนแห่ถามข้อมูล กรณีปตท.มีแผนขายหุ้นทั้งหมดในบางจาก ยืนยันไม่มีผลกระทบต่อการทำธุรกิจ นายวิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม (BCP) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนสอบถามเข้ามาจำนวนมาก เกี่ยวกับกรณีที่บริษัท ปตท. (PTT) จะขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัทออก เพราะไม่มั่นใจว่า จะส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างไร ซึ่งบริษัทได้ชี้แจงให้ข้อมูลไปแล้วว่า ไม่ได้มีผลกระทบต่อการทำธุรกิจของบางจาก "อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ระมัดระวังการให้ข่าว โดยเฉพาะการพาดพิงถึงบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เพราะอาจจะกระทบต่อราคาหุ้น ซึ่งบางจากมีผู้ถือหุ้นที่ต้องคำนึงถึง และต้องดูแล ในกรณีที่ปตท.ต้องการจะขายหุ้น ยิ่งต้องระมัดระวัง ไม่ให้สินทรัพย์ที่ถืออยู่มีมูลค่าลดลง เพราะนอกจากกระทบผู้ถือหุ้นบางจากแล้ว ยังกระทบกับผู้ถือหุ้นปตท.ด้วย" เขากล่าวต่อว่า โดยมารยาทแล้ว การจะพูดถึงนโยบายที่พาดพิงถึงคนอื่น โดยเฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไม่ควรทำ และคนที่พูดก็ต้องมีอำนาจในการบริหาร ควรจะรู้บทบาทหน้าที่ และคำนึงถึงผู้เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครมาพูดคุยกับบางจากในเรื่องนี้ ในส่วนบริษัทในช่วงนี้บริษัทก็จะพยายามให้ข้อมูลนักลงทุนถึงข้อเท็จจริงทั้งหมด สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบางจาก ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยภาพรวมเป็นไปตามแผนที่วางไว้ แม้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี จะมีการหยุดซ่อมโรงกลั่น แต่ภาพรวมผลการดำเนินงานก็ไม่ได้แตกต่างช่วงไตรมาสแรก เพราะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เข้ามา ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้น "ไตรมาส 2 ไม่ได้ออกมาแย่ ไม่ได้แตกต่างจากไตรมาสแรก แม้ปิดซ่อมโรงกลั่น เพราะมีรายได้จากส่วนอื่นเข้ามา ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะไม่ได้มีการปิดซ่อมโรงกลั่นเหมือนครึ่งปีแรก" นักวิเคราะห์จาก บล.เคเคเทรด เปิดเผยว่า หากปตท. ลดสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมด 375 ล้านหุ้นในบางจาก เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบางจาก โดยเฉพาะความกังวลต่อเรื่องการจัดหาน้ำมันดิบสำหรับกลั่น เพราะการจัดหาน้ำมันดิบมีสัญญาเป็น Term Contract ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบแม้ปตท.ลดสัดส่วนการถือหุ้นลง แม้บางจากจะไม่ได้รับผลกระทบจากการลดสัดส่วนการถือหุ้น แต่ในระยะสั้นยังขาดปัจจัยสนับสนุนการลงทุน และยังได้รับแรงกดดันจากค่าการกลั่นน้ำมันที่ลดลง และแนวโน้มกำไรสุทธิที่อ่อนตัวในไตรมาส 2 แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 คาดว่า จะปรับลดลงจาก ค่าการกลั่นที่ลดลงตามฤดูกาล โดยปัจจุบันค่าการกลั่นตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 5.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 8% จากไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้กำลังการกลั่นยังคาดว่าจะลดลงเหลือ 5.5 หมื่นบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากบริษัทมีแผนหยุดซ่อมโรงกลั่นเป็นเวลา 46 วัน แม้จะมีรายได้จากการผลิตไฟฟ้าเพิ่ม หลังโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์เฟส 3 เดินเครื่องเร็วกว่ากำหนดก็ตาม แต่ไม่สามารถชดเชยรายได้จากธุรกิจหลักที่ลดลง เนื่องจากสัดส่วนกำไรก่อนรายการภาษี ดอกเบี้ยจ่าย และค่าเสื่อมราคา หรือ อีบิทด้า จากธุรกิจไฟฟ้าคิดเป็น 20% ของทั้งหมด Tags : วิเชียร อุษณาโชติ • บางจาก • ปตท. • ขายหุ้น